ผู้จัดการรายวัน 360 - ทีบีดับบลิวเอฉีกกฎเอเยนซี เมินรางวัล มุ่งปรับองค์กร ชู Data เป็นขุมทรัพย์ช่วยธุรกิจให้รุ่งโรจน์ ล่าสุดทุ่มงบ 40 ล้านบาทสู่ “Creative Growth Agency” เปิดตัวหน่วยธุรกิจใหม่ ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจให้กลุ่มลูกค้า
นายชัยประนิน วิสุทธิผล ประธานบริหาร บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในยุคดิสรัปชัน และชีวิตในยุคโควิดในปัจจุบัน พบว่าสินค้าและลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่อ่อนแอ และอ่อนไหวต่อการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าที่การสื่อสารแบบพื้นๆ จะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้าได้ สะท้อนถึงบทบาทและคุณค่าที่แท้จริงของเอเยนซีในการเป็นคู่ค้าในเชิงกลยุทธ์เพื่อการเจริญเติบโตของธุรกิจเป็นสำคัญ จากเดิมอุตสาหกรรมโฆษณามุ่งเน้นความเป็นเลิศทางการสื่อสารที่จะช่วยสร้างความสำเร็จให้แก่ลูกค้า โดยมีรางวัลใหญ่ในวงการเป็นเครื่องวัดขีดความสำเร็จ
ทั้งนี้ ทีบีดับบลิวเอจะมุ่งมั่นผลักดันที่จะไม่เป็นเพียงแค่เอเยนซีโฆษณา จากเดิมที่มุ่งเน้นงานด้านการสื่อสารการตลาด ก้าวสู่ Creative Growth Agency ที่พร้อมเป็นที่ปรึกษา ให้ Solution ทั้งด้านธุรกิจ การตลาด และความคิดสร้างสรรค์แบบครบวงจร โดยการนำ Data, Culture และ Creativity มาสร้างเป็น Platform ใหม่เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า ด้วยความแม่นยำและทันการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของสังคม ภายใต้บทบาท Creative Growth Agency
“วันนี้ทีบีดับบลิวเอไม่ใช่ Advertising Agency อีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้เราจะเป็น Creative Growth Agency องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย Data และ Culture เพื่อให้ลูกค้าของเราแม่นยำมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และรวดเร็วมากกว่าคู่แข่งในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ไร้ความปรานีและช่วงวิกฤตที่เลวร้าย” นายชัยประนินกล่าว
ล่าสุดได้ใช้งบลงทุนถึง 40 ล้านบาทในการพัฒนาขีดความสามารถ ทั้งบุคลากรและเทคโนโลยี และได้ตั้งแผนก Data and Culture Intelligence ทั้งในประเทศไทย และในสิงคโปร์ รวมทั้งแพลตฟอร์มการตลาดเชิงรุก ให้พร้อมกับการทำงานในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ได้เปิดตัวยูนิตธุรกิจใหม่ในชื่อ “Disruption Consulting” ที่จะช่วยสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางธุรกิจและกิจกรรมทางการตลาดที่แม่นยำ เฉียบคม มีประสิทธิภาพ และเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนของลูกค้า เป็นหน่วยงานเปรียบเสมือน Think Tank จะวางกลยุทธ์สร้างการเจริญเติบโตทางธุรกิจที่แม่นยำให้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน การวิเคราะห์ดาต้าและกระแสสังคม ไปจนถึงการประเมินผล และปรับปรุงพัฒนา Consumer Journey ให้ดีขึ้นตลอดเวลา ส่วนงานสื่อสารที่ทำอยู่ปกติจะถูกพัฒนาให้เป็น Dynamic Creativity เพื่อตอบโจทย์ด้านการวางกลยุทธ์ คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ ที่รวดเร็ว เท่าทันสังคมและการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงการผลิตคอนเทนต์ในทุกรูปแบบ
“ดีเอ็นเอของทีบีดับบลิวเอ คือ การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างและทรงพลัง, การพัฒนานวัตกรรม และการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อค้นหาโซลูชันที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า เราเชื่อว่าคุณค่าที่แท้จริงของเอเยนซี คือการใช้ความรู้ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์เพื่อช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโต มั่นใจว่าการปรับองค์กรครั้งนี้เป็นโอกาสช่วยทุกกลุ่มธุรกิจเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลง” นายชัยประนินกล่าว
ด้านนายชาคริต เตชะนภารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ประเด็นที่องค์กรควรให้ความสำคัญสูงสุดในปัจจุบัน คือ ความพร้อมและความได้เปรียบเชิงแข่งขันขององค์กรในช่วงต้นปี 2565 เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับมา และสิ่งที่จะมาสร้างความได้เปรียบได้ดีที่สุด คือ Precision Marketing หรือการวิเคราะห์และวางกลยุทธ์การตลาดอย่างแม่นยำ เพราะเงื่อนไขทางธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบันแทบไม่เหลือพื้นที่ให้ได้ก้าวพลาดอีกต่อไป
ทั้งนี้ Precision Marketing จะเกิดขึ้นได้ไม่ใช่แค่การมีดาต้าอยู่ในมือ แต่คือการรู้ว่าควรนำข้อมูลไหนไปใช้เพื่ออะไร และควรตั้งคำถามกับข้อมูลที่ได้มาอย่างไรเพื่อให้เกิด Disruptive Idea ผนวกเข้ากับกระแสสังคม หรือพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนำมาวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจให้เกิดขึ้น
