xs
xsm
sm
md
lg

ก.เกษตรฯ เดินหน้าโครงการเงินกู้ธุรกิจดินปุ๋ย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรรับผิดชอบดำเนินโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) และโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ซึ่งเป็นโครงการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนเกษตรกรอย่างยั่งยืน

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) เป็นโครงการที่ดำเนินการผ่านศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ตามความต้องการของเกษตรกร จึงมี ศดปช.สมัครเข้าร่วมโครงการมากถึง 394 ศูนย์ ใน 63 จังหวัด โครงการนี้จะช่วยเกษตรกรลดภาระต้นทุนปุ๋ยเคมีลงได้จากการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามค่าวิเคราะห์ดิน โดยภาครัฐสนับสนุนชุดตรวจวิเคราะห์ดิน แม่ปุ๋ย N P K และเครื่องผสมปุ๋ย ให้แก่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน คำแนะนำการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยเบื้องต้น จัดหาปุ๋ยคุณภาพดีให้แก่สมาชิก ศดปช. กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ และเกษตรกรทั่วไป รวมทั้งให้บริการผสมปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน จากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่าสามารถดำเนินการในภาพรวมได้แล้วถึงร้อยละ 62.35 แบ่งเป็นการจัดซื้อวัสดุการเกษตรและครุภัณฑ์แล้วเสร็จ ประกอบด้วย ชุดตรวจวิเคราะห์ดิน จำนวน 185 ศดปช. แม่ปุ๋ย N P K จำนวน 161 ศดปช. เครื่องผสมปุ๋ย จำนวน 99 ศดปช. ส่วนการเริ่มให้บริการในเชิงธุรกิจ มีการจดทะเบียนการค้าปุ๋ยแล้วจำนวน 105 ศดปช. จัดทำแผนธุรกิจหรือโมเดลธุรกิจบริการดินและปุ๋ยแล้วจำนวน 209 ศดปช. เปิดให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินและให้คำแนะนำการจัดการดินและปุ๋ยแล้ว จำนวน 174 ศดปช. เปิดจำหน่ายแม่ปุ๋ยพร้อมให้บริการแล้ว จำนวน 36 ศดปช. ให้บริการเครื่องผสมปุ๋ยแล้ว จำนวน 26 ศดปช. 

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรอยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนา Platform และ Application เพื่อให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ย และ Data Base คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการในเดือนกันยายน 2564 นี้แน่นอน ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีได้เฉลี่ยร้อยละ 20 คิดเป็นมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท และในส่วนของโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด มีเกษตรกรสนใจและแจ้งเข้าร่วมโครงการแล้วถึงจำนวน 3,448 แปลง คิดเป็นร้อยละ 66 จากที่เสนอความต้องการไว้

ส่วนในการบริหารจัดการทั้งสองโครงการ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ทำงานร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินโครงการประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ เป็นไประเบียบบริหารราชการอย่างเคร่งครัด สามารถสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก และสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ภาคการเกษตรไทยได้อย่างยั่งยืน

 


กำลังโหลดความคิดเห็น