โลตัสเดินหน้าให้การสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขและชุมชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุด โดยมอบน้ำดื่ม อาหารแห้ง และอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เจลแอลกอฮอล์ โดยตั้งแต่วันที่ 9-19 เมษายน พ.ศ. 2564 ได้บริจาคอาหารและสิ่งของที่จำเป็นแก่หน่วยงานและชุมชนเกือบ 200 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนาม 13 แห่ง โรงพยาบาล 33 แห่ง ด่านคัดกรองและด่านตรวจ 138 แห่ง รวมถึงชุมชนใกล้เคียงสาขา
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัตติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มต้น โลตัสได้ตั้งพันธกิจของเราเอาไว้ 3 ข้อ คือ หนึ่ง ดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและเพื่อนพนักงาน สอง มีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ จำหน่ายในราคายุติธรรม และสาม สนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบ
ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกล่าสุดที่มีความรุนแรงกว่าที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้ในหลายจังหวัดมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วย โลตัสได้บริจาคอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้แก่โรงพยาบาลสนามจำนวน 13 แห่ง กล่าวคือ โรงพยาบาลสนาม จังหวัดภูเก็ต, โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ 700 ปี, โรงพยาบาลสนามจอมทองและโรงพยาบาลสนามอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่, โรงพยาบาลสนามขอนแก่น, โรงพยาบาลสนามค่ายธนรัตน์, โรงพยาบาลสนามโคราช, โรงพยาบาลสนามพิษณุโลก, โรงพยาบาลสนามอุบลราชธานี, โรงพบาบาลสนามระยอง, โรงพยาบาลสนามอุดรธานี, โรงพยาบาลสนามสมุทรปราการ และโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยพะเยา
“เราจะเดินหน้าขยายการสนับสนุนเพิ่มเติมในจังหวัดอื่นๆ ที่มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นในอนาคต เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยสามารถเข้าถึงน้ำดื่ม อาหารแห้ง ของใช้ และอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นต่อไป นอกเหนือจากโรงพยาบาลสนามแล้ว โลตัสยังได้บริจาคน้ำดื่มและของใช้ต่างๆ แก่โรงพยาบาลอีก 33 แห่ง และศูนย์คัดกรองและด่านตรวจ 138 แห่ง”
นายสมพงษ์กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป นอกเหนือจากการบริจาคสิ่งของที่จำเป็นแก่โรงพยาบาลและชุมชนแล้ว ยังมีการช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ เช่น สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและเกษตรกรด้วยการรับซื้อสินค้ามาจำหน่ายในสาขา การให้ทุนประกอบอาชีพแก่กลุ่มเปราะบาง อาทิ แม่เลี้ยงเดี่ยว”
ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในสาขา ศูนย์กระจายสินค้า และสำนักงาน มีดังนี้
มาตรการในสาขา
• ปรับเวลาเปิดทำการตามนโยบายภาครัฐ
• ตรวจคัดกรองอย่างเคร่งครัดที่บริเวณทางเข้าสาขาทุกจุด โดยลูกค้าทุกท่านต้องสวมหน้ากากและวัดอุณหภูมิ พร้อมทั้งลงทะเบียนไทยชนะ ก่อนเข้าใช้บริการ
• ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาปฏิบัติงานก่อนเข้าพื้นที่ทุกครั้ง พนักงานที่มีอาการป่วยต้องหยุดงานและพบแพทย์
• รักษามาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าให้ปราศจากการปนเปื้อน
• มีถุงมือพลาสติกให้บริการลูกค้าในแผนกอาหารสด
• ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวทุกบริเวณเป็นประจำทุกๆ 2 ชั่วโมง เช่น เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ราวจับบันไดเลื่อน ปุ่มกดลิฟต์ รถเข็นและตะกร้าชอปปิ้ง บัตรศูนย์อาหารและบัตรจอดรถ (ทุกครั้งหลังการใช้) รวมถึงห้องน้ำ
• สาขาที่มีการรายงานไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ปิดบริการชั่วคราวเพื่อความสะอาดและอบละอองฆ่าเชื้อ เพื่อนพนักงานที่มีความเสี่ยงให้หยุดงานเพื่อกักตัวและตรวจโรคตามคำแนะนำของแพทย์
มาตรการในศูนย์กระจายสินค้า
• มาตรการคัดกรองเข้มงวด สวมหน้ากาก วัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง ล้างมือ ลงทะเบียนไทยชนะ
• มีพยาบาลเพื่อดูแล และให้ความรู้พนักงาน รวมทั้งตรวจเยี่ยมถึงที่พัก
• เพิ่มจำนวนรถรับ-ส่งพนักงานเพื่อควบคุมระยะห่าง พนักงานขับรถจะต้องทำความสะอาดรถทุกครั้งหลังการรับ-ส่งพนักงาน และพนักงานขับรถห้ามเข้าพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า
• คู่ค้าทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อบนบรรจุภัณฑ์สินค้าก่อนจัดส่ง
มาตรการในสำนักงานใหญ่
• ให้เพื่อนพนักงานสำนักงานใหญ่ปฏิบัติหน้าที่จากที่บ้าน (work from home) ตั้งแต่วันที่ 12-30 เมษายน พ.ศ. 2564 และอาจพิจารณาขยายระยะเวลาตามสถานการณ์การติดเชื้อ