ทล.เคลียร์ปรับแบบ 17 ตอนมอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-นครราชสีมา” ชงคมนาคมพิจารณาแล้ว คาดเข้า ครม.กลาง พ.ค.ปลดล็อกงานช้า “สราวุธ” เผยภาพรวมคืบ 93% มั่นใจเร่งแผนเสร็จปลายปี 65 ตั้งเป้าเซ็นงาน O&M พ.ค. ด้าน “BTS” ยืนราคา ถึงสิ้นมิ.ย.
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ระยะทาง 196 กม. ที่มีการปรับแบบก่อสร้างจำนวน17 ตอนจากทั้งหมด 40 ตอน และทำให้วงเงินก่อสร้างเพิ่มประมาณ 6,800 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ ทล. โดยคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งมีผู้แทนจากอาจารย์มหาวิทยาลัย เข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงทางเทคนิคและวิศวกรรม ได้สรุปผลการตรวจสอบของ 4 ตอนสุดท้าย (ตอนที่ 1, 3,4,32) เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยภาพรวมได้ตรวจสอบและประเมินราคาครบทั้ง 17 ตอนแล้ว รวมถึงได้หารือกับสำนักงบประมาณพินารณาความเหมาะสมของราคาแล้ว คาดว่า กระทรวงคมนาคม จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานภายในเดือน เม.ย.จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาประมาณกลางเดือน พ.ค. 2564
โดยการพิจารณาแบบล่าสุด วงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มไม่ถึง 6,000 ล้านบาท ส่วนบางตอนที่มีค่าก่อสร้างเพิ่มและอาจมองว่าเป็นงานใหม่ ซึ่งอาจต้องประมูล หากให้ผู้รับเหมารายเดิมก่อสร้างต่อ จะกลายเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่ เช่น การปรับแบบจากทางระดับดินเป็นสะพาน หรือทางยกระดับ หรือแบบสะพานที่ยาวขึ้น หรือการทำฝาครอบบริเวณเรือนจำคลองบางไผ่ เป็นต้น ซึ่งกระทรวงคมนาคม ให้นำเรื่องหารือกับกรมบัญชีกลาง ว่าจะต้องเปิดประมูลใหม่หรือไม่
ทั้งนี้ ปัจจุบันการก่อสร้างงานโยธา มอเตอร์เวย์สาย บางปะอิน-นครราชสีมา จำนวน 40 ตอน ในภาพรวม มีความคืบหน้า 93% โดยมี 20 ตอนที่ก่อสร้างเสร็จ 100% แล้ว โดยหาก ครม. พิจารณาอนุมัติการเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง 17 ตอนที่มีการปรับแบบในเดือน พ.ค. กรมทางหลวงจะจัดทำแผนงานก่อสร้างใหม่ โดยเร่งรัดผู้รับเหมาเพื่อให้งานโยธาเสร็จในปลายปี 2665
ส่วนมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) มีงานโยธา 25 สัญญา (ตอน) ขณะนี้มีความก้าวหน้า 55% โดยคาดว่า งานโยธาจะแล้วเสร็จเดือน เม.ย. 2566 ซี่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการพิจารณาเปิดให้ใช้เส้นทางก่อน ประมาณเดือน ก.ย. 2566 และคาดว่า จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ เก็บค่าผ่านทางได้ ต้นปี 2567
สำหรับโครงการร่วมลงทุนการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทั้งสายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ขณะนี้ทางกลุ่ม BGSR (บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS / บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF / บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH) ได้ตกลงขยายเวลาในการยืนราคาไปถึงวันที่ 30 มิ.ย.2564 ซึ่งประเมินว่า หาก ครม. เห็นชอบการเพิ่มวงเงินงานโยธาสายบางปะอิน-นครราชสีมา ในเดือน พ.ค. นี้ ทล.พร้อมจะเร่งรัดการลงนามสัญญา O&M ต่อไป
นายสราวุธ กล่าวว่า การลงนามสัญญา ระบบ O&M สายบางใหญ่ ขณะนี้ไม่มีปัญหาใดๆ เพียงแต่อยากรอให้งานโยธาก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 60-70% ก่อน เพราะจะได้มีพื้นที่ให้งานระบบเข้าดำเนินการ ปัญหาอยู่ที่สายบางปะอิน-นครราชสีมา ที่ต้องรอเรื่องการเพิ่มค่าก่อสร้างจบก่อน เพราะหากเซ็นสัญญางาน O&M ไปแล้วเกิดกรณีส่วมอบพื้นที่ไม่ได้ ทางเอกชนอาจจะขอเคลมมา ซึ่งจะเคลมเป็นการขยายเวลา ไม่สามารถเคลมเป็นเงินได้
“ตอนนี้เรื่องความจำเป็นในการปรับแบบ และเพิ่มค่าก่อสร้างมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบเหตุผล ความจำเป็น ตอนนี้เหลือประเด็นสาเหตุที่ต้องปรับแบบ การออกแบบเดิมไม่ครบถ้วน เป็นการตรวจสอบเรื่องความผิดพลาด ซึ่งจะมีคณะกรรมการ อีกชุดที่จะดำเนินการ”
สำหรับมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงินโครงการที่ 84,600 ล้านบาท มีกรอบค่างานโยธา 69,000 ล้านบาท เวนคืนที่ดิน 6,630 ล้านบาท โดยงานโยธามี 40 ตอน หลังประมูลค่างานโยธาลดลง 2-3% หรืออยู่ที่ 59,950 ล้านบาท หรือประหยัดงบราว 10,000 ล้านบาท
ส่วนมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม. วงเงินลงทุนโครงการ 55,927 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 38,475 ล้านบาทและค่าเวนคืน 17,452 ล้านบาท)