ผู้จัดการรายวัน 360 - ยันฮีประกาศเปิด “ศูนย์รักษาโรคด้วยกัญชา” เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่เห็นความสำคัญของผู้ป่วยที่จะมีทางเลือกในการรักษาโรค ดีเดย์เปิดให้บริการ 9 เมษายนนี้ พร้อมจับมือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร นำกัญชาที่มีคุณภาพดีมาใช้รักษาทางการแพทย์
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยแผนการขยายศูนย์การรักษาของโรงพยาบาลว่า ในช่วงครึ่งปี 2564 นี้จะพัฒนาศูนย์การรักษาให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะแพทย์ทางเลือก และ Anti-Aging ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของบุคลทั่วไป โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องการเพิ่มทางเลือกในการรักษาโรค ทางโรงพยาบาลจึงได้เปิด “ศูนย์รักษาโรคด้วยกัญชา” ซึ่งถือเป็นแพทย์ทางเลือกที่หลายๆ ประเทศให้ความสนใจกันมาก ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย และช่วยให้มีทางเลือกในการรักษาโรคมากขึ้น โดยใช้งบลงทุนในการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการกว่า 15 ล้านบาท
ที่สำคัญ ทางโรงพยาบาลยันฮียังได้ร่วมมือกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อร่วมมือในการศึกษาวิจัยและพัฒนาการผลิตกัญชาทางการแพทย์ เนื่องจากเล็งเห็นว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครมีทีมนักวิจัยที่มีความรู้ ความสามารถและมีประสบการณ์ในการพัฒนาสายพันธุ์กัญชาให้มีคุณภาพที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งการร่วมมือกันทำการวิจัย พัฒนาและคัดเลือกสายพันธุ์กัญชาที่ดีที่สุดมาผลิตเป็นยารักษาโรคให้แก่ผู้ป่วย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเชื่อว่ากัญชาจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีประโยชน์ระดับประเทศต่อไป
ในระหว่างนี้ ทาง รพ.ยันฮียังได้นำวัตถุดิบจากกัญชามาปรุงเป็นยารักษาโรคจากฟาร์มกัญชาของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา (ลำปาง) ซึ่งได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในประเทศไทยได้มีการใช้ในทางการแพทย์และอนุญาตให้วิสาหกิจชุมชนทำการปลูกได้ภายใต้ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหรือโรงพยาบาลอีกด้วย
นพ.สุพจน์กล่าวว่า สำหรับยากัญชาแผนไทยทั้ง 5 ตำรับที่มีส่วนประกอบของใบและกิ่งก้านกัญชาที่สามารถนำมารักษาโรค ได้แก่ 1. ยาศุขไสยาศน์ ยาแก้นอนไม่หลับ 2. ยาแก้ไข้ผอมเหลือง 3. ยาแก้ลมแก้เส้น 4. ยาทาริดสีดวงทวารหนักและโรคผิวหนัง 5. ยาแก้โรคจิต ที่สำคัญ ทางโรงพยาบาลฯ ยังได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ในการตรวจรักษา ทีมแพทย์ พยาบาลและเภสัชกรที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการใช้สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์
“ปัจจุบันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้กัญชาทางการแพทย์ขยายตัวไปสู่ภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และเข้าถึงการรักษามากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความแออัด ลดการรอคอยการรับบริการในโรงพยาบาลรัฐอีกด้วย เราจึงเชื่อมั่นว่ายันฮีจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่หันมาให้ความสำคัญต่อการรักษาโรคด้วยกัญชา และช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐได้อย่างแน่นอน” นพ.สุพจน์กล่าว
นพ.วัสสะ วัชรากร หัวหน้าศูนย์แพทย์ทางเลือกและ Anti-Aging กล่าวถึงความพร้อมของทีมแพทย์ พยาบาลและเภสัชกรว่า ศูนย์รักษาโรคด้วยกัญชาตั้งอยู่ในศูนย์แพทย์ทางเลือกและ Anti-Aging ของโรงพยาบาล โดยมีทีมแพทย์ พยาบาลและเภสัชกรที่ผ่านการอบรมและมีใบประกาศการใช้สารสกัดจากกัญชาทางการแพทย์ โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ายันฮี จะเป็นโรงพยาบาลหนึ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
นพ.วัสสะกล่าวเสริมว่า ถึงแม้กัญชาจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว แต่เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์ต่อจิตประสาททำให้ติดและเมาได้ หากใช้ไม่ถูกวิธีหรือใช้เองโดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้น ผู้ที่สนใจจึงควรพิจารณาข้อมูลต่างๆ ให้ดีและเข้ารับการปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อการรักษาอย่างปลอดภัยและให้ผลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด