“ศักดิ์สยาม” ลั่นไม่มีทุจริตหรือล็อกสเปกดันสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ สุวรรณภูมิชี้จำเป็นต้องเพิ่มขีดความสามารถรับนักท่องเที่ยว แนะให้ดูราคาตอนประมูล พร้อมรับความเห็น ป.ป.ช.ประกอบข้อมูล
จากกรณีที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เรื่อง ขอให้ดำเนินการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิตามข้อศึกษาของ ป.ป.ช. และมติเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีด้วยความเคารพในกติกาสังคมนั้น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กรณีความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น ป.ป.ช.มีอำนาจตามกฎหมายในการเสนอความคิดเห็น ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะนำความเห็นของ ป.ป.ช.มาประกอบกับมติในการประชุม คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งแต่งตั้งเป็นณะกรรมการที่ตั้งขึ้นตามคำสั่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และมีสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และนายประสงค์ พูนธเนศ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งเคยเป็นอดีตประธานบอร์ด ทอท.เข้าร่วมประชุม โดยคณะกรรมการฯ เห็นถึงความจำเป็นในการดำเนินการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ
ซึ่งตนได้พูดไปหลายครั้งแล้วว่าสนามบินประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเทอร์มินัลไม่เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทำให้เกิดความแออัด และต้องยืนรอ ตรวจคนเข้าเมืองนาน ไม่มีความสะดวก โดยปี 2563 ช่วงก่อนเกิดโควิด สุวรรณภูมิมีผู้โดยสารมากกว่า 60 ล้านคน/ปี แออัดมาก ซึ่ง ทอท.ถูกตำหนิมาก ซึ่งวันนี้อาคารผู้โดยสารหลักรองรับได้ 45 ล้านคน/ปี ขณะที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ( SAT1 ) อีก 15 ล้านคน/ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ปี 2565-2566 ภาพรวมจะรองรับได้ 60 ล้านคน/ปี
ข้อเสนอของ ป.ป.ช.ที่ให้ก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก (East & West Expansion) ไม่มีอะไรผิด โดยรวมจะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มด้านละ 15 ล้านคน/ปี รวมกับอาคารหลักและ SAT 1 อีก 60 ล้านคน/ปี รวมกันเป็น 90 ล้านคน/ปี แต่ต้องไม่ลืมว่าปัจจุบันสุวรรณภูมิมีการก่อสร้างรันเวย์เส้นที่ 3 เพื่อวัตถุประสงค์ 2 ข้อ คือ 1. สำหรับกรณีมีการซ่อมบำรุงรันเวย์ 1, 2 จะไม่กระทบต่อการให้บริการขึ้นลงของเครื่องบิน 2. จากการศึกษาสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) จะทำให้ Slot การบินเพิ่มขึ้น จาก 60 ล้านคนเป็น 90 ล้านคน /ปี แม้อาคารผู้โดยสารจะรับได้ 90 ล้านคน/ปี พอดีกัน แต่การเดินทางของผู้โดยสารจะมากกว่า และจากสถานการณ์โควิด การบริหารมาตรการเว้นระยะห่างจากสังคม (Social distancing) ขีดความสามารถ 90 ล้านคน/ปี เชื่อว่าจะเกิดความแออัดเหมือนเดิม
@ยันไม่ปล่อยให้มีเรื่องทุจริต ล็อกเสปก
ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามเรื่องทุจริต นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เรื่องทุจริตหรือไม่นั้นต้องไปดูที่ราคาค่าก่อสร้าง ดูการประมูลหากราคาค่าก่อสร้างแพง หรือประมูลมีล็อกสเปกก็เข้าข่ายทุจริต แต่วันนี้ยังไม่มีอะไร ขณะที่ยืนยันหลักการต้องก่อสร้างทั้ง 3 อาคาร คือ อาคารทิศเหนือ ต่อขยายอาคารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ล่าสุดได้พบกับเลขาฯ สภาพัฒน์ ให้ข้อเสนอแนะในการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารด้านตะวันออก และตะวันตก ให้ก่อสร้างจากด้านนอกเข้ามา เพื่อให้กระทบต่ออาคารหลักน้อยที่สุด ซึ่งจะให้ ทอท.รับไปดำเนินการ วันนี้โควิดยังมีอยู่ ควรเริ่มทำตอนนี้เพราะจะยังไม่มีอุปสรรคต่อการให้บริการมากนัก
“ผมรับความเห็นของ ป.ป.ช.มาประกอบการพิจารณา และจะดูให้รอบคอบในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันอย่างดี ผมก็อยากให้ ป.ป.ช.ช่วยดูทุกโครงการของคมนาคมแบบนี้ รวมถึงโครงการในอดีตด้วยที่ผ่านมามีอะไรไม่ถูกต้องมาช่วยกัน เช่น โฮปเวลล์ อยากให้ ป.ป.ช.มาช่วยคิดบ้าง เสนอไปไม่เห็นทำอะไรเลย ผมขอโทษที่ต้องพาดพิง แต่ไม่ได้มีอะไร ขออธิบาย ผมมองไปข้างหน้า ถ้าเรื่องนี้มีทุจริตก็จะมีการดำเนินคดี ผมบริหารกระทรวงคมนาคม ระวังเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ทุกอย่างทำตามกฎหมาย ระเบียบ มติ ครม. หลักธรรมาภิบาลโดยเคร่งครัด”
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า วันนี้จะไม่ได้มีแค่นี้ แต่ยังมีเมืองการบินอู่ตะเภาที่จะรองรับได้อีก 60 ล้านคน/ปี สนามบินดอนเมือง ขยายจาก 40 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี สนามบินภูมิภาคของ ทอท. เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ภูเก็ต รองรับรวมกว่า 200 ล้านคน/ปี วันนี้นักท่องเที่ยวอยากมาแต่ไม่มีรันเวย์ ไม่มีอาคารรองรับได้พอ