xs
xsm
sm
md
lg

“เดอะมอลล์” ปูพรมดิจิทัลคอมเมิร์ซ ดันสัดส่วนยอดขายปีแรก 2 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - เดอะมอลล์กรุ๊ป ถึงเวลาลุยชอปปิ้งออนไลน์บ้าง ทุ่ม 100 ล้านบาท วางระบบสู่ “MONLINE” ชู 5 จุดแข็งรุกตลาด วางเป้าหมายปีแรกมีผู้ใช้บริการ 20 ล้านราย และมียอดขายจากออนไลน์ 2,000 ล้านบาท

นางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 เมษายน 2564 จะเป็นวันที่เดอะมอลล์กรุ๊ป เข้าสู่ตลาดออนไลน์ “เอ็ม ออนไลน์” อย่างเป็นทางการเต็มระบบ ตามแผนโรดแมพยุทธศาสตร์ของเดอะมอลล์ ดิจิทัล คอมเมิร์ซ รีเทล ด้วยการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล 5.0 ดึง AI - ANALYTICS ขั้นสูงมาใช้ในโลกรีเทล เพื่อพัฒนาช่องทางการตลาดแบบบูรณาการ OMNICHANNEL RETAIL อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านโมเดลธุรกิจ O2O ที่ผสานจุดเด่นของ OFFLINE RETAIL กับแพลทฟอร์ม ONLINE ผ่าน 2 พรีเมี่ยมเว็บไซต์ WWW.MONLINE.COM และWWW.GOURMETMARKETTHAILAND.COM ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัลพรีเมียมคอมเมิร์ซ (DIGITAL PREMIUM COMMERCE) เพื่อตอบโจทย์โลกรีเทลแห่งอนาคตภายในปี 2567 
“เดอะมอลล์เป็นรายแรกของรีเทลที่ทำชอปปิ้งออนไลน์เมื่อหลายปีที่ผ่านมาชื่อว่า เอ็ม โกลบมอลล์ เป็นเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ แต่ตอนนั้นเรามาเร็วไป ระบบยังไม่พร้อม อินเทอร์เน็ตยังไม่เร็ว ผู้บริโภคยังไม่รู้จักชอปปิ้งออนไลน์มากนัก เราทำปีแรก ขายของไม่ได้มาก แล้วเราก็เงียบๆ ไป จากนั้นก็มีพวกมาร์เกตเพลสต่างชาติเข้ามากันมากมายทั้งเกาหลี ทั้งจีน เป็นต้น” นางศุภลักษณ์กล่าว 


เดอะมอลล์พร้อมกับการรุกออนไลน์ครั้งนี้ด้วยจุดแข็ง 5 ประการ คือ 1. ความครบสมบูรณ์ของสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าทุกเจเนอเรชัน 2. ประสบการณ์ชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ O2O : OFFLINE TO ONLINE รวมทั้ง SOCIAL MEDIA ผ่าน CHAT & SHOP 3. ชอปปิ้งแบบพิเศษสุดทั้งในเรื่องเอ็กซ์คลูซีฟโปรโมชันแคมเปญ  4. ลอยัลตี้โปรแกรมพิเศษเฉพาะของสมาชิกบัตร M CARD กว่า 4.5 ล้านคน รวมทั้งการผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจต่างๆ มอบสิทธิพิเศษ และสิทธิประโยชน์มากมาย และ 5. การสร้างคอมมิวนิตี้ผ่านคอนเทนต์และอีเวนต์ที่โดนใจ เชื่อมโยงทั้ง ONLINE - OFFLINE แบบไร้รอยต่อ

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์ไม่ได้มาช้าเกินไป แต่เรามาในจังหวะที่พร้อม อีกทั้งตลาดรวมอี-คอมเมิร์ซในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นด้านของ โซเชียลคอมเมิร์ซ กับมาร์เกตเพลสเป็นหลัก ขณะที่อี-รีเทลเลอร์ออนไลน์แบบเรายังมีสัดส่วนที่น้อยมากแค่ 4% ยังถือว่าต่ำมากยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และอี-รีเทลเลอร์มีจุดแข็งตรงที่เรามีตัวตนอยู่ในโลกออฟไลน์อยู่แล้ว คือ ร้านค้าสโตร์สาขาต่างๆ ที่ลูกค้ามาชอปปิ้งเดิม มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นที่ยอมรับทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจได้มากกว่า

โดยตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยเมื่อปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 1.63 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 2.2 แสนล้านบาทในปี 2563 หรือเติบโตกว่า 35% แบ่งเป็น E-Marketplace 47%, Social Commerce 38% และ E-Retailers/Brands.com 15%


หากมองประเทศอื่น เช่น จีน สัดส่วนของอี-รีเทลเลอร์ ปีพ.ศ. 2562 มีประมาณ 25% แต่เพิ่มเป็น 40% ในปีที่แล้ว และคาดวาจะเพิ่มเป็น 50% ในปี 2567 ส่วนกลุ่มยุโรป มีสัดส่วน 19% เมื่อปี2562 จะเพิ่มเป็น 30% ในปี 2563

ทั้งนี้ ประเภทกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนการขายและเติบโตดีในไทยในตลาดอี-คอมเมิร์ซภาพรวมของไทยเมื่อปี 2563 คือ กลุ่มอาหารและไม่ใช่อาหาร สัดส่วนการขาย 38% เติบโต 161%, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สัดส่วน 31% เติบโต 35%, กลุ่มบิวตี้ สัดส่วน 11% แต่เติบโต 94% และอื่นๆ สัดส่วน 20% เติบโต 63%


น.ส.วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี และ OMNICHANNEL เข้ามามีบทบาทมากขึ้น จนกลายเป็นกลุยทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจรีเทลที่เชื่อมต่อห้างสรรพสินค้า - ONLINE เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดประสบการณ์แห่งการชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ซึ่ง M ONLINE ถูกออกแบบมาจากความเข้าใจลูกค้าในเชิงลึก และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยมี Big Data จาก Customer Platform และเทคโนโลยี AI (ARTIFICIAL INTELLIGENCE) ที่ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทุ่มทุนในการพัฒนาไปกว่า 100 ล้านบาท ทำให้เราได้ข้อมูลจากลูกค้าที่มาเดินในห้างสรรพสินค้าของเราทุกสาขาวันละ 1 ล้านคน และยังมีฐานข้อมูลจากสมาชิกบัตร M Card กว่า 4.5 ล้านคน สมาชิกบัตร SCB M กว่า 8 แสนคน ตลอดจนฐานข้อมูลลูกค้าจากกว่า 13 พันธมิตรบัตรเครดิตอีกจำนวนหลายล้านใบ

โดย 3 กลยุทธ์หลักทำตลาด M ONLINE คือ 1. CUSTOMER CENTRIC รู้จักและรู้ใจลูกค้าในเชิงลึกอย่างแท้จริง 2. PARTNER CENTRIC ให้ความสำคัญกับพันธมิตรทั้งในเรื่องของข้อมูล ระบบ และช่องทางกระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้น และ 3. CONTENT CENTRIC เน้นการสื่อสารที่นำเสนอเทรนด์ สินค้า บริการ และโปรโมชัน อย่างสร้างสรรค์ในทุกช่องทาง

“เดอะมอลล์ตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าเข้ามาชอปปิ้งผ่านออนไลน์ของเราในปีแรกนี้ประมาณ 20 ล้านคน ซึ่งเรามีฐานลูกค้าที่มาชอปปิ้งที่สโตร์ หรือออฟไลน์ ประมาณ 1 ล้านคนต่อวันทุกสาขารวมกัน มีฐานสมาชิกเอ็มการ์ด 4.5 ล้านราย มีลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย 8 ล้านราย และผ่านเว๊บไซต์ 8 แสนราย โดยตั้งเป้าหมายยอดขายออนไลน์ปีแรกนี้ที่ 2,000 ล้านบาท และภายใน 3 ปีมีสัดส่วนยอดขายจากออนไลน์ 15% และภายใน 5 ปีมีสัดส่วน 25% จากยอดขายรวมเดอะมอลล์กรุ๊ป” น.ส.วรลักษณ์กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น