xs
xsm
sm
md
lg

CPN ลุ้นปีนี้กู้รายได้คืนเท่าปี 62 ทุ่ม 1.3 หมื่นล้านผุด 3 มิกซ์ยูสภูธร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซีพีเอ็น” มองโลกแง่ดี มั่นใจปีนี้สถานการณ์รวมฟื้นตัว ดันรายได้กลับมาเท่าปี 62 ก่อนที่จะเติบโตในปีหน้าหากไม่มีโควิดรอบ 3 สวนโควิดทุ่ม 1.39 หมื่นล้านบาทผุดมิกซ์ยูส 3 โครงการในอยุธยา ศรีราชา และจันทบุรี

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น/CPN เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดหวังว่ารายได้รวมในปี 2564 นี้จะกลับไปเท่าเดิมกับเมื่อช่วงปี 2562 หรือก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด โดยอยู่บนเงื่อนไขที่ว่าจะไม่มีการระบาดรอบ 3 เกิดขึ้นอีก รวมทั้งยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยด้วย ซึ่งปกติซีพีเอ็นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติสัดส่วนประมาณ 15-20% และคาดว่าในปีหน้าจะกลับมาเติบโตได้
 
หลังจากที่ปีที่แล้วเจอปัจจัยลบคือโควิด-19 ระบาดอย่างหนักทั้งในไทยและทั่วโลก แต่ซีพีเอ็นก็มีการปรับตัวปรับกลยุทธ์รับมือสถานการณ์มาโดยตลอด รวมทั้งการช่วยเหลือคู่ค้าและร้านค้าต่างๆ มาตลอด ส่งผลให้สามารถผ่านสถานการณ์มาได้ในระดับที่ดีพอสมควร แม้ว่ารายได้รวมลดลงส่วนหนึ่ง ส่วนปริมาณทราฟฟิกลูกค้าที่เข้าศูนย์ฯ โดยเฉลี่ยเริ่มกลับมาดีขึ้นเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วเป็น 85% แต่เมื่อเจอโควิดรอบสองทำให้ปริมาณทราฟฟิกลูกค้าตกมาอยู่ที่ 75% แต่ก็คาดหวังว่าภายในสิ้นปี 2564 นี้จะมีทราฟฟิกกลับมาที่ 95% ได้
 


“โควิด-19 ทำให้ทุกคนทุกธุรกิจได้รับผลกระทบ รายได้และกำไรพลาดเป้าหมายทั้งหมด แต่จากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งการฉีดวัคซีนที่เริ่มทยอยฉีดมากขึ้น ทำให้มีภูมิคุ้มกันมากขึ้น คนไทยปฏิบัติตัวถูกต้องตามมาตรการป้องกันโควิด และการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลคาดว่าจะดีขึ้น และภายในปีหน้าสถานการณ์ก็น่าจะกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม” นางสาววัลยากล่าว

ทั้งนี้ ปี 2562 มีรายได้รวม 38,403 ล้านบาท โต 9% และกำไรสุทธิ 11,738 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปี 2561 สำหรับอัตราการเช่าพื้นที่ศูนย์การค้า ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 93% ขณะที่ปี 2563 มีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท และมีกำไร 9,557 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ซีพีเอ็นเองก็ยังมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในระยะยาว จึงยังมีการลงทุนต่อเนื่อง ปี 2564 นี้เราก็ยังคิดบวกต่อสถานการณ์และเชื่อว่าในวิกฤตยังมีโอกาสในการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตเสมอ ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณลงทุนรวมมากกว่า 13,900 ล้านบาทเพื่อเปิดตัวและพัฒนา 3 โครงการใหม่ต่างจังหวัดในโมเดลมิกซ์ยูส ประกอบด้วย เซ็นทรัล อยุธยา มูลค่าโครงการ 6,200 ล้านบาท, เซ็นทรัล ศรีราชา มูลค่า 4,200 ล้านบาท และเซ็นทรัล จันทบุรี มูลค่า 3,500 ล้านบาท เพื่อเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพของจังหวัดด้วย การขยายโครงการใหม่ครั้งนี้จะสร้างให้เป็นมากกว่าการขยายสาขาศูนย์การค้าเท่านั้น


ทั้งนี้ เซ็นทรัล อยุธยาจะสร้างให้เป็นศูนย์กลางทัวริสซึมอีโคซิสเต็มอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีประชากรกลุ่มเป้าหมายกว่า 2,500,000 คน และนิคมอุตสาหกรรม 5 แห่ง กว่า 166,000 คน และอยุธยามีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากกว่า 8 ล้านคนในปี 2562 แบ่งเป็น คนไทย 6 ล้านคน ต่างชาติประมาณ 2 ล้านคน เปิดบริการเดือนตุลาคม 2564

เซ็นทรัล ศรีราชา รองรับนิวเอสเคิร์ฟ เมืองอนาคต ผลักดันศรีราชาให้เป็นศูนย์กลางของ EEC ซึ่งศรีราชามีประชากรกว่า 580,000 คน มีชาวญี่ปุ่นและต่างชาติอาศัยกว่า 40,000 คน มีกำลังซื้อสูง กลุ่มคนญี่ปุ่นที่ทำงานในศรีราชาเป็นผู้บริหารระดับสูง เงินเดือนเฉลี่ย 100,000-200,000 บาทต่อเดือน และเป็นจังหวัดที่มีจีดีพีเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ คาดว่าจะเปิดบริการเดือนกันยายน 2564

เซ็นทรัล จันทบุรี สร้างรองรับการเป็นอีอีซี พลัส 2 ของจันทบุรี มีกลุ่มประชากรเป้าหมายมากกว่า 1,800,000 คน คาดว่าจะเปิดบริการไตรมาสที่ 2 ปี 2565




















กำลังโหลดความคิดเห็น