สนามบินดอนเมืองผู้มีโดยสารเพิ่ม คาดหยุดสงกรานต์ 6 วัน ปชช.เดินทางกว่า 2.5 แสนคน หรือเฉลี่ย 4.2 หมื่นคน/วัน มี 330 เที่ยวบิน/วัน เพิ่มช่องตรวจค้นแก้คับคั่ง “สัมพันธ์” เผยรัดเข็มขัดต่อเนื่อง บริหารจัดการพื้นที่ลดค่าไฟเหลือเดือนละ 30 ล้าน
ร.ท.สัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้สนามบินดอนเมืองมีผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 30,000 คน/วัน ซึ่งแนวโน้มในการเดินทางภายในประเทศเริ่มกลับมา แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่สมุทรสาคร ช่วงนั้นมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 50,000 คน/วัน
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 29 ธ.ค. 2563 ให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันตั้งแต่ 10-15 เมษายน 2564 รวม 6 วัน และรัฐบาลได้มีการผ่อนปรนการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารเฉลี่ย 42,000 คน/วัน หรือตลอด 6 วันจะมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 250,000 คน หรือคิดเป็น 80% ของปริมาณการเดินทางช่วงสงกรานต์ปี 2562 ขณะที่มีสายการบินขอทำการบินเส้นทางภายในประเทศประมาณ 323-330 เที่ยวบิน/วัน
“สถานการณ์โควิดยังมีผลต่อการเดินทาง ทำให้ปริมาณผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมืองมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงอย่างรวดเร็ว แต่ถือว่ามีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในทิศทางที่จะกลับสู่สถิติเดิม”
นอกจากนี้ สนามบินดอนเมืองยังมีการบริหารจัดการพื้นที่และระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง โดยเฉพาะส่วนของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ยังไม่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าลงจากประมาณ 41-42 ล้านบาท/เดือน เหลือ 30 ล้านบาท/เดือน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเดินทางยังเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charge : PSC) ที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารภายในประเทศ อัตรา 100 บาท/คนเท่านั้น ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่มาก หากเปรียบเทียบกับค่า PSC ที่เก็บจากผู้โดยสารระหว่างประเทศอัตรา 700 บาท/คน ภาพรวมของสนามบินดอนเมืองยังมีรายได้ต่ำกว่ารายจ่าย
อย่างไรก็ตาม สนามบินดอนเมืองได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะบริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นจุดที่มีผู้โดยสารคับคั่งนั้น ได้บริหารจัดการโดยการเปิดช่องตรวจค้นให้เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา โดยขอความร่วมมือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเดินทางมายังสนามบินแทนรถยนต์ส่วนตัว และเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ยังคงปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา มีมาตรการคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารและผู้ใช้บริการก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร ลงทะเบียนใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ และจัดพิมพ์ QR Code เพื่อให้เช็กอิน-เช็กเอาต์ทุกครั้งที่ใช้บริการรวมทั้งมีการปรับรูปแบบดำเนินการแบบ New Normal ตามมาตรการด้านสาธารณสุขทุกขั้นตอน