“จุรินทร์” นำทีมพาณิชย์ พบสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ประเมินทิศทางตลาดข้าวไทยปี 64 ตั้งเป้าผลักดันส่งออก 6 ล้านตัน พร้อมอัด 6 มาตรการ เพิ่มยอดขาย เตรียมลุยประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ ขายข้าวจีทูจี ถกคู่ค้าลดภาษี ลดอุปสรรค หาทางลดต้นทุน เร่งขายออนไลน์ ออฟไลน์ ไฮบริด และตามหาพันธุ์ข้าวใหม่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการนำทีมกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง โดยมีทูตพาณิชย์จาก 17 ประเทศ ที่นำเข้าข้าวไทยและเป็นตลาดสำคัญของข้าวไทย และพาณิชย์จังหวัด 20 จังหวัด ที่เข้าร่วมประชุมผ่านทางออนไลน์ ไปพบปะหารือเรื่อง “ทิศทางตลาดข้าวไทยปี 2564 กับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ว่า เป็นการมาเยี่ยมสมาคมฯ และหารือร่วมกันในประเด็นการค้าข้าว โดยมีข้อสรุปในประเด็นเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2564 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6 ล้านตัน เพิ่มจากปี 2563 ที่ส่งออกได้ 5.7 ล้านตัน โดยจะมุ่งเน้นใน 3 ตลาดหลัก ได้แก่ ตลาดพรีเมียม เน้นข้าวหอมมะลิและข้าวหอมไทย ตลาดทั่วไป เน้นข้าวขาวและข้าวนึ่ง และตลาดเฉพาะ เน้นข้าวเหนียว ข้าวกล้องและข้าวสี
สำหรับมาตรการผลักดันการส่งออกได้กำหนดไว้ 6 มาตรการ ได้แก่ 1. จะเร่งประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับข้าวไทยว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยใช้ Think Rice Think Thailand ถ้าคิดถึงข้าว ต้องคิดถึงประเทศไทย 2. เร่งรัดเปิดตลาดการขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) โดยกำหนดไว้ทั้งหมด 4 ตลาดใหญ่ ได้แก่ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก และจีน 3. เจรจาลดภาษีนำเข้า และอุปสรรคการนำเข้าในการทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กรอบต่างๆ เช่น เม็กซิโก สหภาพยุโรป (อียู) และสหราชอาณาจักร (ยูเค) เป็นต้น
4. ร่วมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการลดต้นทุนการส่งออก เช่น ค่าระวางเรือ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 5. เร่งรัดขยายช่องทางการตลาด ทั้งในรูปแบบออฟไลน์ ออนไลน์ และไฮบริด และ 6. จัดกิจกรรมประกวดข้าวพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการวิจัยและพัฒนาของทุกภาคส่วน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ข้าวหอม ข้าวนุ่ม และข้าวแข็ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวในตลาดโลก
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับตัวอย่างการขยายตลาดข้าวไทยที่ประสบความสำเร็จ เช่น ตลาดแคนาดา ทีมเซลส์แมนประเทศที่โตรอนโตได้ผลักดันขยายตลาดข้าว โดยแคนาดานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มเป็น 1.2 แสนตัน ในปี 2563 จาก 8 หมื่นตันในปี 2562 มีกลยุทธ์หลัก เช่น มุ่งเน้นการขายข้าวไทยออนไลน์ไปยังผู้บริโภคและตัวแทนค้าส่งที่สำคัญ ทำประชาสัมพันธ์ข้าวไทยไม่ต้องรับประทานแบบวิถีไทยเท่านั้น สามารถนำไปประยุกต์กับอาหารพื้นถิ่นของแคนาดาได้ เช่น ทำสลัดข้าว เป็นต้น และทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนสอนทำอาหารในประเทศแคนาดา และโปรโมตข้าวไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแคนาดา ประชาสัมพันธ์ว่าข้าวไทยเป็นข้าวเพื่อสุขภาพ มีน้ำตาลต่ำ ซึ่งได้มอบหมายให้เซลส์แมนในประเทศอื่นๆ นำไปเป็นแนวทางทำงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายจุรินทร์ ได้ลงนามเอ็มโอยูว่าด้วยการค้าข้าวระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของไทยกับกระทรวงการค้าแห่งประเทศอินโดนีเซีย ในการซื้อขายข้าว 4 ปี ปริมาณ 4 ล้านตัน ตามที่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนหน้านี้ และยังมีกำหนดลงนามกับบังกลาเทศในการซื้อขายข้าว 5 ปี 5 ล้านตันต่อไป