“พาณิชย์” เกาะติดสถานการณ์ราคาปาล์มใกล้ชิด หลังผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด เผยส่งสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ติดตามการซื้อขายต่อเนื่อง กำชับปิดป้ายแสดงราคา ห้ามกดราคาทำให้ราคาปั่นป่วน ย้ำหากตรวจพบเล่นงานหนัก โชว์ผลงานที่ผ่านมาดูแลทั้งระบบ ช่วยเกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาเป็นธรรม ผู้บริโภคซื้อน้ำมันปาล์มราคาไม่สูงเกินจริง
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตปาล์มน้ำมันเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว แม้ยังมีปริมาณไม่มาก แต่กรมฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด โดยได้จัดส่งสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ โดยปัจจุบันราคารับซื้อผลปาล์ม อยู่ที่ 5.70-6.40 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และยังได้ขอความร่วมมือโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มให้รับซื้อผลผลิตในราคาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านการผลิตและการตลาด ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อที่อัตราน้ำมัน 18% ขึ้นไปให้ชัดเจน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อจะมีโทษตามกฎหมาย ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากพบว่ามีการกดราคา หรือจงใจทำให้เกิดความปั่นป่วนด้านราคา จะมีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ในการดูแลการรับซื้อผลปาล์มให้แก่เกษตรกร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดเข้มงวดกำกับดูแลไม่ให้มีการฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ รวมถึงให้ผู้ค้าปิดป้ายแสดงราคารับซื้ออย่างชัดเจนด้วย
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า การกำกับดูแลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้มาตรการด้านบริหารและมาตรการทางกฎหมายเท่าที่จำเป็นควบคู่กันไป โดยยังไม่เคยใช้มาตรการควบคุมราคา เนื่องจากปาล์มน้ำมันเป็นสินค้าเกษตรที่ผลผลิตออกตามฤดูกาล และขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ อีกทั้งยังเป็นสินค้าเกษตรกึ่งอุตสาหกรรมซึ่งต้องใช้การบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่เป็นต้นน้ำได้รับราคาที่คุ้มค่ากับการเพาะปลูก ซึ่งสามารถผลักดันให้ราคาผลปาล์มดิบจากเดือน ส.ค. 2563 ที่เฉลี่ย กก.ละ 3.58 บาท เพิ่มเป็นสูงสุด กก.ละ 7.70 บาทในเดือน ก.พ. 2564 ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 จาก 23.43 บาท/กก. เป็นสูงสุดที่ 40 บาท/กก.ในเดือน ก.พ. 2564
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มดิบจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ได้เข้าไปดูแลผู้บริโภคที่อยู่ปลายน้ำต้องไม่รับผลกระทบมากเกินไป และไม่เป็นการจำกัดการประกอบธุรกิจของผู้แปรรูปที่อยู่กลางน้ำ เพื่อให้ผู้รับไม้ต่อยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยได้ดูแลราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่รับซื้อก่อนหน้านี้ และได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดชะลอการปรับราคาออกไปให้นานที่สุด ขอความร่วมมือห้างค้าส่ง ค้าปลีก จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดให้อยู่ในระดับราคาที่ไม่เป็นภาระต่อประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดและห้างค้าปลีก ค้าส่ง ได้ให้ความร่วมมือจัดให้มีการจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคาเฉลี่ยที่ 48-49 บาท/ขวด ส่วนกรณีที่มีร้านค้าย่อยบางรายฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา ได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว