“สนพ.” ส่งสัญญาณราคาน้ำมันมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังโอเปกพลัสลดผลิตที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวันไปจนถึง เม.ย. 64 คลังน้ำมันซาอุฯ ถูกโจมตี ปัจจัยหลักดันราคาน้ำมันโลกขยับ
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติขยายเวลาการปรับลดการผลิตที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงเดือน เม.ย. 64 อีกทั้งซาอุดีอาระเบียยังอาสาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 1 เดือน ไปสิ้นสุดเดือนเม.ย. 64 ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน เม.ย. 64 ที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน รวมทั้งข่าวกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมนยิงโดรนและขีปนาวุธเพื่อหวังโจมตีแห่งอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีฯ โดยยิงถังเก็บน้ำมันที่ท่าเรือรัสทานูรา ซึ่งหนึ่งในเมืองท่าน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก และโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซาอุดี อารามโค
“สถานการณ์ดังกล่าวมีผลให้ทิศทางราคาน้ำมันสูงขึ้นแล้ว ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันยังได้แรงสนับสนุนจากความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจาก COVID-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ภาพรวมน้ำมันมีทิศทางที่จะปรับตัวสูงขึ้น” นายวัฒนพงษ์กล่าว
รายงานข่าวจากไทยออยล์แจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 พบว่าเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลง หลังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่า 70 เหรียญสหรัฐจากการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนและมิสไซล์ของกองกำลังติดอาวุธเยเมน ณ จุดส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเวสต์เทกซัสอยู่ที่ 65.05 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 1.04 เหรียญต่อบาร์เรล เบรนต์อยู่ที่ 68.24 เหรียญต่อบาร์เรล ลดลง 1.12 เหรียญต่อบาร์เรล ดูไบ 68.24 เหรียญบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.84 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินออกเทน 95 อยู่ที่ 76.25 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 2.28 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลหมุนเร็ว 72.60 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 1.64 เหรียญต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผลการประชุมของกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่มีมติขยายเวลาการปรับลดการผลิตที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงเดือน เม.ย. 64 ประกอบกับซาอุดีอาระเบียที่อาสาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อไปจนถึงเดือน เม.ย. 64 ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปกพลัสจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโนมปรับตัวสูงขึ้น หลังสหรัฐฯ ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ท่ามกลางอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงกว่า 6.2%
ราคาเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นหลายแห่งในจีนเริ่มปิดซ่อมบำรุงประจำปี ท่ามกลางอุปสงค์ที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการปิดเมืองที่มีแนวโน้มคลี่คลายในหลายภูมิภาค ขณะที่ดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนยังคงส่งออกน้ำมันดีเซลสู่ตลาดแม้จะเริ่มปิดซ่อมบำรุงประจำปี ท่ามกลางปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลง