“พาณิชย์” ตรวจตลาด ยันสถานการณ์ “น้ำมันปาล์มขวด” กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว การันตีสินค้าไม่ขาดแคลน หลังผลผลิตปาล์มสดออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ย้ำประชาชนไม่ต้องตื่นกักตุน
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวด ว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกว่าน้ำมันปาล์มจะขาดแคลน เพราะขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ดูแลอยู่และยืนยันว่าน้ำมันปาล์มมีเพียงพอสำหรับบริโภคแน่นอน และปัจจุบันสถานการณ์ปาล์มเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีแล้ว โดยมีผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และราคาก็ทยอยลดลง ซึ่งเมื่อเทียบจากช่วงต้นเดือน ก.พ. 2564 ผลปาล์มดิบเคยขยับขึ้นไปถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 7-8 บาท แต่ปัจจุบันลดเหลือ กก.ละ 6 บาทกว่าเท่านั้น ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบลดลงจาก 40 บาท เหลือเพียง 37 บาท ซึ่งไม่ได้กดดันต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มขวดแล้ว
“ราคาปาล์มน้ำมันได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว และหลังจากนี้สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีราคาสูงเท่านี้อีกแล้ว เห็นได้จากราคาช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่เริ่มอ่อนตัวลงจากต้นเดือน ก.พ. และเดือน มี.ค.ก็จะถึงฤดูกาลที่ผลปาล์มออกมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลไปกักตุนของ เพราะกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ มีการประสานกับผู้ผลิตตลอดเวลา ซึ่งจะมีของออกมาต่อเนื่องไม่มีขาดตลาดแน่นอน” นายบุณยฤทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ราคาปาล์มขวด พบว่าในห้างค้าปลีกสมัยใหม่มีการขายเต็มชั้นวาง และขายเฉลี่ยขวดละ 48-49 บาท โดยที่ผ่านมากรมการค้าภายในได้หารือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า เพื่อขอความร่วมมือให้ดูแลราคาขายที่เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดี บางรายเลือกที่จะขายโดยไม่เอากำไรเพราะถือเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า และยังมีการจำกัดการซื้อน้ำมันปาล์มไม่เกินครัวเรือนละ 3 ขวด ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้มีการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้ทั่วถึง ป้องกันไม่ให้มีการกักตุนโดยผู้ใดผู้หนึ่งมากเกินไป หรือการซื้อไปขายเก็งกำไร
ส่วนกรณีน้ำมันพืชถั่วเหลืองปรับราคาเพิ่มขึ้นจาก 48-49 บาท เป็น 55 บาทนั้น เป็นการขึ้นราคาเพียงบางยี่ห้อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้น แต่ยังมีน้ำมันถั่วเหลืองอีกหลายยี่ห้อที่ยังขายราคาเดิม โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อยี่ห้อที่ราคาเหมาะสมได้