“จุรินทร์” ไม่หวั่นฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.เรื่องถุงมือยาง ย้ำเข้ามาปราบโกง ไม่ได้เข้ามาโกง ใครผิดจะเอาเข้าคุกให้หมด ไม่มีไว้หน้า ด้าน “สุชาติ” ประธานบอร์ด อคส.ยันไม่เกี่ยวซื้อถุงมือยางแสนล้าน เผยไม่ใช่นโยบาย เป็นเรื่องฝ่ายปฏิบัติไปทำมา ย้ำวันนี้คิดแค่ว่าจะเอาเงิน 2 พันล้านบาทคืนได้อย่างไร “ดิเรก” รองประธานบอร์ดระบุโครงการใหญ่ขนาดนี้ไม่เคยเสนอให้บอร์ดพิจารณาเลย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องถุงมือยางไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าตนไม่มีอะไรเป็นห่วง เพราะได้มอบหมายให้ ผอ.อคส.คนใหม่ยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และได้ยื่นต่อ ป.ป.ช.ไปก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. 2563 หลังตนทราบเรื่องไม่ถึง 10 วัน และเรื่องเข้าสู่การไต่สวนของ ป.ป.ช.แล้ว โดย ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนและได้มีการอายัดเงิน 2,000 ล้านแล้ว เรื่องนี้ตนเข้ามาทำหน้าที่ในฐานะ “ผู้ปราบโกง” ไม่ใช่เข้าไปสมคบกับใครทำทุจริตแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ส่วนฝ่ายค้านจะไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.อีกก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ส่วนจะซ้ำซ้อนกับเรื่องที่ ป.ป.ช.กำลังสอบอยู่แล้วหรือไม่ ตนไม่ขอตอบ เพราะเขาพูดไปแล้วไม่ยื่นเดี๋ยวก็จะเสียหน้า แต่เรื่องที่ตนได้มอบให้ ผอ.อคส.คนใหม่ได้ยื่นให้ ป.ป.ช.สอบตั้งแต่ 23 ก.ย. 2563 นั้น ป.ป.ช.สามารถไต่สวนทุกคนได้อยู่แล้ว แม้แต่ตนเอง หรือไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
“ขอยืนยันอีกครั้งว่า ผมจะจัดการกับผู้เกี่ยวข้องในทางมิชอบกับทุกคนโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ทั้งทางวินัย แพ่งและอาญาโดยไม่หยุดยั้ง เพื่อเอาคนผิดเข้าคุก และให้คนผิดชดใช้ค่าเสียหายให้กับ อคส.ต่อไป”
ทั้งนี้ ล่าสุดได้รับทราบความคืบหน้าจากผู้อำนวยการ อคส.คนใหม่แล้วว่าได้เร่งรัดคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ อคส.ให้เร่งสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว หลังจากนั้นถ้าพบผู้กระทำผิดกี่คนก็จะเร่งตั้งกรรมการลงโทษทางวินัยและตั้งกรรมการชี้ความรับผิดทางละเมิด คือ ระบุความเสียหายที่ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ อคส.เป็นรายบุคคล
นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า การจัดซื้อถุงมือยางไม่ได้เป็นนโยบายของตนเองตามที่มีการกล่าวอ้าง และตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญาซื้อขาย เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติที่จะดำเนินการ ซึ่งนโยบายของตนที่ให้กับ อคส.มี 3 ข้อ คือ พัฒนาบุคลากร พัฒนาองค์กร และหารายได้ให้แก่องค์กร ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางครั้งนี้ เป็นเรื่องฝ่ายปฏิบัติดำเนินการ และไม่รู้ว่าเป็นไอเดียของใคร เพราะที่ผ่านมามีหลายคนเสนอไอเดียในการจัดหารายได้ให้องค์กรเยอะมาก ใครมีอะไรก็เสนอเข้ามา แต่ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าจะเอาเงิน 2,000 ล้านบาทที่ อคส.จ่ายเป็นค่ามัดจำถุงมือยางไปแล้วคืนมาได้อย่างไร
ส่วนเรื่องคลิปเสียงบันทึกการประชุมบอร์ด อคส.เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 ที่มีการเปิดเผยในรัฐสภาระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และระบุว่าเป็นเสียงของตนที่พูดเหมือนกับว่าเรื่องการทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางเป็นเรื่องลับ รอนายจุรินทร์มากดเดินนั้น ขณะนี้กำลังปรึกษากับทีมที่ปรึกษากฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า การถูกพาดพิงครั้งนี้ทำให้ถอดใจและจะลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด อคส.หรือไม่ นายสุชาติไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ถามผู้สื่อข่าวว่ามีอะไรจะแนะนำหรือไม่ และเมื่อถามว่านายจุรินทร์ได้หารืออะไรในเรื่องนี้บ้าง นายสุชาติกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย
พล.ต.ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ รองประธานบอร์ด อคส.กล่าวว่า การจัดซื้อถุงมือยางดังกล่าว บอร์ด อคส.ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ทั้งๆ ที่เป็นโครงการใหญ่ขนาดนี้ และมีมูลค่าซื้อขายนับแสนล้านบาท มีการถอนเงินออกจากบัญชีของ อคส.ไปจ่ายเงินมัดจำสินค้าถึง 2,000 ล้านบาท แต่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการ อคส.ซึ่งดำเนินการในเรื่องนี้กลับไม่เสนอให้บอร์ดพิจารณา หรือแม้แต่รายงานให้บอร์ดได้รับทราบก็ไม่มี บอร์ดเพิ่งทราบเรื่องก็เมื่อเป็นข่าวแล้ว เรื่องเก่ายังสะสางไม่หมด นี่มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว คงต้องถามประธานบอร์ด เพราะเป็นผู้ถูกพาดพิง