“จุรินทร์” ปล่อยรถโมบายขายไข่ถูก น้ำมันปาล์มขวดละ 42 บาท ดึงตลาดสดในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ขายไข่ไก่ หมูเนื้อแดง ไก่สด ราคาพิเศษ ช่วยประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน พร้อมมอบพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าใกล้ชิด ป้องกันการฉวยโอกาส ย้ำเข้าไปดูแลราคาน้ำมันปาล์มแล้ว ประสานผู้ผลิตตรึงราคาให้นานที่สุด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจราคาสินค้า เพื่อดูแลผู้บริโภคช่วงเทศกาลตรุษจีน ณ ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รณรงค์ให้ผู้ค้าขายสินค้าที่จำเป็นในช่วงตรุษจีนในราคาประหยัด เพื่อกำหนดราคาชี้นำตลาดในราคาพิเศษ เพื่อลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่จำเป็นจะต้องทำพิธีไหว้บรรพบุรุษเนื่องในเทศกาลตรุษจีน
สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือของกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. รถโมบายขายสินค้าสำคัญในราคาพิเศษ เช่น ไข่ไก่ แผงละ 30 ฟอง ราคา 70 บาท เฉลี่ยฟองละ 2.33 บาท น้ำมันปาล์มขวดละ 42 บาท มียี่ห้อมรกตเข้าร่วมรายการ โดยรถโมบายจะกระจายไปทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2.ตลาดสดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ในเขตกรุงเทพฯ มีอยู่ด้วยกัน 20 ตลาดใหญ่ และต่างจังหวัดมี 393 ตลาด จะขายไข่ไก่ แผงละ 70 บาท และหมูเนื้อแดงกิโลกรัม (กก.) ละ 130 บาท ถือว่าถูกกว่าราคาตลาดทั่วไป และ 3.ตลาดสดยุติธรรมของกระทรวงพาณิชย์และกรมการค้าภายใน ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ ในกรุงเทพฯ มีอยู่ด้วยกัน 20 ตลาด ส่วนภูมิภาคมี 40 กว่าจังหวัด 70 กว่าตลาด จะขายสินค้าที่จำเป็น เช่น หมูเนื้อแดง ไข่ไก่ ในราคาพิเศษ และไก่จะขายในกิโลกรัมละ 70-80 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาของที่จำเป็นต่อการใช้ไหว้บรรพบุรุษในปีนี้เทียบกับปีที่แล้ว พบว่า ปีนี้ราคาต่ำลงมาเนื่องจากความต้องการลดลง และผลจากโควิด-19 ทำให้สินค้าต้องลดราคาลงมาบางส่วน ประกอบกับมาตรการกระทรวงพาณิชย์ที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ค้าและสมาคมตลาดสดไทย สมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย และบริษัทโลจิสติกส์ เช่น นิ่มซี่เส็ง และแฟลช ทำให้ต้นทุนสินค้าถูกลง จึงขายได้ในราคาถูกลง
อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศออกตรวจตลาด โดยให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด อย่าให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อเอาเปรียบผู้บริโภค หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที
ส่วนกรณีน้ำมันปาล์มมีขวดราคาสูงขึ้น ได้กำชับให้กรมการค้าภายใน หารือกับผู้ประกอบการ เพื่อตรึงราคาจำหน่ายให้นานที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และทุกฝ่ายได้ประโยชน์ คือ เกษตรกรขายผลปาล์มได้ราราคาดี ผู้บริโภคไม่เดือดร้อน แต่จะให้ไปกดราคาปาล์ม เพื่อให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดลดลง คงไม่ได้ เพราะเกษตรกรจะเดือดร้อน ซึ่งจากการประสานงานของกรมการค้าภายใน ผู้ผลิตยังสามารถคงราคาได้ และคาดว่าเมื่อผลผลิตปาล์มออกมามากในช่วงเดือน มี.ค. 2564 ราคาก็จะอ่อนตัวลงบ้าง ส่วนจะนำน้ำมันปาล์มกลับมาเป็นสินค้าควบคุมราคาสูงสุดนั้น เห็นว่าไม่จำเป็น ยังสามารถบริหารจัดการได้