กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผยสหรัฐฯ รายงานรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วโลกประจำปี 63 ไม่พบย่านการค้าของไทยที่จำหน่ายสินค้าละเมิดแม้แต่แห่งเดียว หลังปี 62 ย่านพัฒน์พงศ์ติดโผ สะท้อนความจริงจังในการปราบปราม แต่ตลาดออนไลน์ยังพบละเมิดอยู่ เตรียมลุยจัดการต่อ ล่าสุดจับมือ 3 แพลตฟอร์มออนไลน์ร่วมสอดส่องแล้ว พร้อมหารือสหรัฐฯ ให้ข้อมูลแผนทำงานของไทย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ได้ออกรายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก ประจำปี 2563 (2020 Review of Notorious Markets for Counterfeiting and Piracy) ทั้งตลาดที่มีการขายสินค้าละเมิด (Physical Markets) และตลาดออนไลน์ (Online Markets) โดยในการรายงานครั้งนี้ไม่มีรายชื่อย่านการค้าหรือศูนย์การค้าของไทยปรากฏอยู่ในกลุ่มตลาดที่มีการละเมิดสูง (Notorious Markets) แม้แต่แห่งเดียว จากเดิมที่เคยมีการระบุชื่อย่านพัฒน์พงศ์ในรายงานฉบับปี 2562
ทั้งนี้ รายงานที่ออกมาถือเป็นเรื่องน่ายินดีและสะท้อนถึงการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่องของไทย ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จึงส่งผลให้การจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีจำนวนลดลงหรือไม่พบการละเมิดแล้ว แต่กรมฯ และหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายยังคงมีแผนดำเนินงานเชิงรุก โดยจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในการติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าละเมิดในย่านการค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำสินค้าละเมิดกลับมาจำหน่ายอีก
สำหรับตลาดออนไลน์ยังพบข้อมูลการจำหน่ายสินค้าละเมิดอยู่บ้าง ซึ่งกรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะเร่งดำเนินการตามมาตรการป้องปรามร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ลงนาม MOU ร่วมกับ 3 แพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำของไทย ได้แก่ Shopee Lazada และ JD Central เพื่อระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และเสริมสร้างองค์ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่ผู้ค้าออนไลน์ ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจของผู้บริโภคในการซื้อของออนไลน์ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนต่างประเทศในการเข้ามาดำเนินธุรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในไทยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การจัดทำรายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลกของ USTR ในอนาคตไม่ปรากฏรายชื่อตลาดละเมิดในไทย กรมฯ จะหารือกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อให้รับทราบถึงมาตรการและการดำเนินการด้านการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งความก้าวหน้าในระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยทำให้ผลการจัดทำรายงานประจำปี 2564 เป็นไปในเชิงบวกแก่ประเทศมากยิ่งขึ้น