xs
xsm
sm
md
lg

ลุยขยาย “สนามบินกระบี่” รับ 8 ล้านคน เทอร์มินัล 3 สร้างได้ 46%-ลานจอดเสร็จแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทย.เผยก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ และปรับปรุงอาคาร 1, 2 สนามบินกระบี่ คืบหน้า 46.01% รับเพิ่ม 8 ล้านคน ส่วนลานจอดเสร็จ 100% แล้ว

นายสมเกียรติ  มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ด้านโครงสร้างพื้นฐาน) ในฐานะประธานตรวจรับงานฯโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร ท่าอากาศยานกระบี่ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1, 2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์ และงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินและระบบไฟฟ้าสนามบิน ปัจจุบันงายก่อสร้างเป็นไปตามแผน

โดยโครงการงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินมีความก้าวหน้า 100% (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2563) โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ Code D, E และอากาศยานขนาดกลาง Code C ได้จำนวน 34 ลำในเวลาเดียวกัน

- โครงการงานก่อสร้างอาคารพักผู้โดยสารหลังที่ 3 พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1, 2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์มีความก้าวหน้าสะสม 46.01% (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2563) โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานกระบี่จากเดิมรองรับผู้โดยสารได้ 1,500 คนต่อชั่วโมง เป็น 3,000 คนต่อชั่วโมง หรือ จาก 4 ล้านคนต่อปี เป็น 8 ล้านคนต่อปี และอาคารจอดรถยนต์หลังใหม่และปรับปรุงลานจอดรถยนต์เดิมจะสามารถรองรับรถยนต์ได้สูงสุด 2,700 คัน

สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานกระบี่ มีบริษัท วีเอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต็นท์ จำกัด และบริษัท กรุงเทพ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต็นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินฯ, บริษัท เซ๊าท์อื๊สเอเชียเทคโนโลยี จำกัด เป็นที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารฯ, กิจการร่วมค้า ที.พี.พี.ซี. เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างลานจอดเครื่องบินฯ, บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร

นอกจากนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ เพื่อให้กำลังใจในการทำงาน พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งบุคลากรที่ต้องปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด เช่น ตรวจวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ ล้างมือบ่อยๆ 

ในส่วนของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ตั้งจุดลงทะเบียนสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าออกของผู้โดยสารตามนโยบายกระทรวงคมนาคม และยังคงทำการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ไม่สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส และต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น จุดรับรอรับกระเป๋าสัมภาระ จุดตรวจบัตรโดยสาร (Check-in counter) ที่นั่งรอก่อนการเดินทางได้จัดให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร  

รวมทั้งมีการรักษาความสะอาด โดยท่าอากาศยานทุกแห่งได้ดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารก่อนจุดรับกระเป๋าทุกเที่ยวบิน พร้อมตั้งจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ และทำความสะอาดโดยใช้แอลกอฮอล์และน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณพื้นอาคาร ห้องน้ำ รถเข็น เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร ราวบันได ลิฟต์โดยสาร และอุปกรณ์สำหรับให้บริการ และอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ทุกชั่วโมง หรือหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกเที่ยวบิน รวมถึงทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสารทุกสัปดาห์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด        












กำลังโหลดความคิดเห็น