ผู้จัดการรายวัน 360 - เดอะพิซซ่า คอมปะนี เปิดเกมรุกสู้โควิด ดึงนิวยอร์กพิซซ่าไซส์ยักษ์ขายปลุกตลาดอีก หวัง 4 เดือนกระตุ้นยอดขาย 200 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในรอบ 10 ปี “ไอซ์-พาริส” ปรับแผนเลื่อนเปิดสาขาใหม่ไปเป็นครึ่งปีหลังแทน
นายภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่เกิดระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ทำให้ต้องปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่อีกเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการปิดสาขาที่เป็นแบบร้านนั่งรับประทานใน หรือไดน์อิน (Dine In) เพิ่มแล้วบางสาขา เช่น ที่ จ.สมุทรสาคร ที่เทอร์มินัลและเซ็นทรัลที่พัทยา และคาดว่าจะมีปิดอีกที่เป็นร้านไดน์อินเฉพาะอีกบางสาขาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง จากเดิมที่ปีที่แล้วปิดไปหลายสาขาและยังปิดอยู่อีก 7 สาขา เนื่องจากอยู่ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาได้เพราะปิดน่านฟ้าอยู่
ส่วนแผนการเปิดสาขาใหม่ในปี 2564 นี้ คาดว่าคงจะมี 7-8 สาขา ตามแผนเดิม แต่คงต้องเลื่อนไปเปิดในช่วงครึ่งปีหลังแทน ขณะที่ปีที่แล้วก็เปิดสาขาใหม่ใกล้เคียงกัน แต่ก็มีปิดลงบ้างเช่นกัน ทำให้สิ้นปีที่แล้วมีสาขาเปิดบริการรวมทุกโมเดลจำนวน 426 สาขา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายแบบไดน์อินจะหายไปมากกว่า 60% แต่ก็มียอดขายในช่องทางอื่น คือ เทกโฮม (TakeHome) กับดีลิเวอรี (Delivery) เข้ามาทดแทนได้เพราะมีการเติบโตอย่างมาก ส่งผลให้สัดส่วนการขายปัจจุบันเป็นไดน์อิน 10%, เทกโฮม 30% และดีลิเวอรีมากถึง 60% จากเดิมสัดส่วนการขายก่อนเกิดโควิดจะใกล้เคียงกันที่ 30% กว่าแต่ละช่องทาง
ขณะที่ตลาดรวมพิซซ่าก็ไม่ได้ตกลงเพียงแต่มีการปรับช่องทางการทานของผู้บริโภคเท่านั้น โดยตลาดรวมมากกว่า 15,000 ล้านบาทยังปกติ ลดลงเล็กน้อย ซึ่งเดอะพิซซ่าคอมปะนียังเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 70% และยังเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาด เพราะในฐานะผู้นำตลาดหากเราไม่ดำเนินการตลาดก็จะไม่เติบโตไม่เคลื่อนไหว
ล่าสุดได้เปิดตัวนิวยอร์ก พิซซ่า XXXL กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยยอดขายมากกว่า 2 แสนถาด ภายใน 14 วันแรกที่ขาย โดยครั้งนี้มีทั้ง 2 ขนาดเช่นเดิม คือ 15 นิ้ว และ 18 นิ้ว แต่จะเน้นไปที่ 15 นิ้ว ที่เหมาะสมกับการสั่งดีลิเวอรี และเทกโฮม มี 4 หน้าพิเศษ คือ มาการิต้า, คาโบนาร่า, พาร์ม่าแฮม และซีฟู้ดมาเนีย ราคายักษ์ใหญ่ขนาด 18 นิ้วเริ่มที่ 399 บาท และยักษ์เล็กขนาด 15 นิ้วเริ่มที่ 379 บาท
นอกจากนั้นยังเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ด้วย คือ “ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต” นักร้องนักแสดงขวัญใจวัยรุ่น หนุ่มลูกครึ่ง สะท้อนความเป็นคนรุ่นใหม่ทันสมัย สนุกสนาน ซึ่งจะทำให้สามารถขยายฐานกลุ่มตลาดวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ หรือเจน Z ได้มากขึ้น จากเดิมที่เดอะพิซซ่าไม่ได้เน้นกลุ่มนี้มากนัก เพราะกลุ่มหลักเดิมจะเป็นครอบครัว และคนทำงาน หรือกลุ่มเจน X, Y คาดว่าจากการเปิดตัวนิวยอร์กพิซซ่ารอบนี้และการทำตลาดด้วยงบสื่อประมาณ 30 ล้านบาท จะมียอดขายเฉพาะแคมเปญนี้ในช่วง 4 เดือนมากกว่า 200 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การตลาดโดยรวมในปี 2564 เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังคงมุ่งเน้นการปรับตัวตามสถานการณ์ภาพรวมของตลาด เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าดังเช่นในปีที่ผ่านมา ได้มีการทำโปรโมชันออกมามากมายที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า อาทิ “โปรโมชันซื้อ 1 ถาด แถมฟรีอีก 1 ถาด” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงกระแสดีลิเวอรีมาแรง อีกทั้งเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ยังตอบสนองมาตรการป้องกันการติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการปรับบริการให้เป็นการส่งแบบไร้สัมผัส (Zero touch delivery) ตั้งแต่ในช่วงต้นของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีการเปิดตัวกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมให้แก่ลูกค้า อย่างแคมเปญ “พิซซ่าซึ้งๆ มาให้เธอ” ที่มีกิมมิกสุดซึ้งเสิร์ฟพิซซ่าพร้อมข้อความกินใจให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งได้รับความประทับใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก และยังเตรียมการเปิดตัวเมนู บริการ รวมถึงกิจกรรมใหม่ๆ มากมายออกมาสร้างสีสัน และเอาใจลูกค้าตลอดปีนี้
นายภาณุศักดิ์กล่าวด้วยว่า ในความเห็นส่วนตัวภาครัฐบาลน่าจะมีมาตรการที่เข้ามาซัปพอร์ตหรือช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารรายใหญ่บ้าง เพราะก็มีต้นทุนที่ต้องดำเนินการขณะที่รายได้หรือรายรับและการขายไม่สามารถทำได้เหมือนปกติ เช่น โครงการคนละครึ่ง น่าจะนำมาใช้ได้บ้าง