บอร์ด รฟท.เคาะขยายสัญญาเช่าที่ดินแนวรถไฟสายมักกะสัน-แม่น้ำหลังโรงงานยาสูบ ให้ติดตั้งป้ายโฆษณาพร้อมปรับพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ และพัฒนาเชิงพาณิชย์แก้ปัญหาบุกรุก เพิ่มพื้นที่สีเขียวและสร้างรายได้เพิ่มเกือบเท่าตัว
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63 มีมติอนุมัติให้บริษัท เวอริซายน์ จำกัด ปรับปรุงพื้นที่เช่าที่ดินติดตั้งป้ายโฆษณาเป็นสวนสาธารณะ และให้ขยายอายุสัญญาเช่าที่ดินเพื่อติดตั้งป้ายโฆษณาออกไปอีก 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 เป็นต้นไป ตามแนวเส้นทางรถไฟสายมักกะสัน-แม่น้ำ ระยะทางประมาณ 2 กม. ช่วงระหว่างถนนพระราม 4-ถนนเพชรบุรี คิดเป็นพื้นที่ประมาณ12,000 ตารางเมตร (มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ประมาณ 700 ตารางเมตร)
รฟท.จะได้รับค่าตอบแทนรวม 222 ล้านบาท ตลอดระยะ 30 ปี แบ่งเป็น ค่าเช่าพื้นที่สำหรับติดตั้งป้ายโฆษณาจำนวน 103 ล้านบาท และค่าติดตั้งป้ายโฆษณาแบบดิจิทัลจำนวน 119 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าค่าเช่าพื้นที่ปัจจุบันที่ รฟท.ได้รับเฉลี่ยประมาณ 4 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ บริษัท เวอริซายน์ จำกัด เป็นผู้เช่าติดตั้งป้ายโฆษณากับ รฟท.ในพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2543 โดยสัญญาจะครบกำหนดในปี 2569 ดังนั้น เมื่อพิจารณาขยายสัญญาใหม่จึงตกลงเริ่มนับตั้งแต่ปี 2564 ระยะเวลา 30 ปี โดยนอกจากติดตั้งป้ายโฆษณา เอกชนได้เสนอปรับปรุงพื้นที่ ปรับภูมิทัศน์ เป็นสวนสาธารณะ เป็นปอดให้คนกรุงเทพฯ เข้าไปออกกำลังกาย และมีร้านค้าบริการบางส่วน
“พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับโรงงานยาสูบ ที่ผ่านมามีปัญหาจากการบุกรุกจากบุคคลภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางเอกชนเสนอแนวทางแก้ปัญหา และยังเป็นของขวัญให้คนกรุงเทพฯ ในปี 2564 ที่จะมีพื้นที่ออกกำลังกายเพิ่มด้วย บอร์ด รฟท.เห็นด้วย เพราะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องจากสวนลุมพินี มีความเหมาะสม โดยบริษัทฯ จะทำการออกแบบการปรับปรุงพื้นที่ และรูปแบบร้านค้านำเสนอ รฟท.อนุมัติก่อนดำเนินการ และจะแล้วเสร็จในต้นปี 2564” นายนิรุฒกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาเช่าเดิมเป็นการใช้ประโยชน์ในการติดตั้งป้ายโฆษณา ซึ่งประสบปัญหามีผู้บุกรุกเข้าไป ทั้งใช้เป็นที่จอดรถ จอดรถเข็น พักอาศัย ร้านค้า โดยที่ผ่านมาสำนักงานเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีหนังสือถึง รฟท.และบริษัทผู้เช่าพื้นที่เพื่อให้แก้ปัญหาในพื้นที่ เนื่องจากพบว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรม และมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค โดยเฉพาะช่วงระหว่างโรงงานยาสูบ-ถนนเพชรบุรี มีกว่า 100 ราย ดังนั้น การที่มีแผนปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะและร้านค้า นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประชาชนแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาบุกรุกได้อีกด้วย