เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู นัดชุมนุมหน้าทำเนียบ 24 ธ.ค. หลังเจรจาส่งออกไม่คืบ เสียหายเดือนละ 4,500 ล้าน โวยขาดทุนยับ ตอนราคาสุกรสูงก็ไปกำกับ กดราคาไว้ แต่พอราคาตกต่ำก็ไม่มีมาตรการช่วยเหลือ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ยังส่งออกไม่ได้
น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผยว่า “ขณะนี้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้องขายหมูขาดทุน ภาครัฐและเอกชนร่วมกรมปศุสัตว์ลงทุนป้องกันโรค ASF จนสำเร็จ ผลประโยชน์น่าจะตกกับเกษตรกรและประเทศชาติ แต่ทำไมจึงโยนปัญหานี้ไปมา หาคนรับผิดชอบไม่ได้ หรือมีผู้มีอิทธิพลแสวงหาประโยชน์บนความลำบากของเกษตรกรอยู่เบื้องหลัง คนเลี้ยงหมูทั่วประเทศ จึงจะนัดรวมตัวกันครั้งใหญ่ เพื่อไปทวงถามคำตอบจากท่านนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายใน 7 วัน นับจากการประชุม 5 ฝ่าย ที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา จะตรงกับวันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งผลการประชุมยังต้องรอเสนอให้ท่าน รมว.พาณิชย์ พิจารณาก่อน โดยไม่ได้กำหนดว่าจะให้คำตอบได้เมื่อใด รออย่างไร้ความหวัง พวกเราทุกคนไม่อยากก่อความวุ่นวายให้กับรัฐบาล แต่ก็ไม่มีทางออกและกลัวว่าจะต้องล้มตายกันหมด”
น.สพ.วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย เผยปัญหาการส่งออกสุกรมีชีวิตไปประเทศกัมพูชา ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งออกได้ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งของโบรกเกอร์ ระหว่างกลุ่มที่ได้รับสิทธิ์ในการทำการค้ากับทางกัมพูชา กับอีกกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์ ที่ใช้รถยนต์และรถบรรทุกปิดกั้นถนนไม่ให้รถขนสุกรผ่านจุดผ่านแดนได้ ปัญหามานานมากกว่า 1 เดือน ส่งผลให้ปริมาณสุกรล้นตลาด กระทบต่อราคาหมูที่ตกต่ำลงอย่างมาก จากราคาสุกรหน้าฟาร์มที่เคยอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แต่ตอนนี้ราคาตกต่ำอย่างหนักราคาขายจริงบางภูมิภาคหล่นลงไปถึง 60 กว่าบาทต่อ กก.แล้ว ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ที่ สศก. คำนวณสูงถึง 75 บาทต่อ กก. เท่ากับเกษตรกรผู้เลี้ยงต้องมารับผลกรรมที่ไม่ได้ก่อ ทั้งๆ ที่ต้องจำยอมกับภาวะขาดทุนมานานกว่า 3 ปี และยังต้องก้มหน้าแบกรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการป้องกันโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ (ASF) จนไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียที่ปลอดจากโรคนี้ คนไทยไม่ต้องกินหมูแพงเหมือนประเทศอื่นที่มีปัญหา ASF
“ปัญหาดังกล่าวข้างต้น สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมกว่า 4,500 ล้านบาท จากราคาสุกรที่ลดลงคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท จากการผลิต 1.85 ล้านตัวต่อเดือน และการส่งออกสุกรมีชีวิตที่ต้องหยุดชะงักเป็นมูลค่าสูงกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีผู้รับผิดชอบ แม้จะเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหา ผ่านท่านนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และกรมปศุสัตว์ แต่ยังหาขอสรุปไม่ได้ และไร้วี่แววว่าเมื่อไหร่การส่งออกสุกรจะเกิดขึ้น ประชุมไปหลายครั้ง ทั้งที่รองนายกฯ นั่งหัวโต๊ะโดยที่แท้จริงแล้วกระทรวงพาณิชย์ดูแลเรื่องตลาดน่าจะตัดสินใจ ทำอะไรสักอย่าง และยังได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีมาดำเนินการ”