xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะ” สั่งเจ้าหน้าที่จังหวัดลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน-โรงงานที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุริยะ” สั่งเจ้าหน้าที่จังหวัดลงพื้นที่ติดตามผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ ระบุโรงงานที่ได้รับผลกระทบแจ้งอุตฯ จังหวัดขอความช่วยเหลือได้โดยตรง พบเบื้องต้นภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ 70 ราย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในภาคใต้ส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้ติดตามผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อรายงานสถานการณ์และสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป

“กระทรวงมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้อย่างมาก โดยหากมีการประเมินความเสียหายได้แล้วอาจจะมีการประชุมร่วมกับทีมผู้บริหารกระทรวงเพื่อออกมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาต่อไป ปัจจุบันโรงงานในภาคใต้ก็มีเป็นจำนวนมาก มีการจ้างงานหลายหมื่นคน ดังนั้นคงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือและหามาตรการเยียวยาต่อไป ขณะเดียวกันก็สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือมาได้ที่อุตสาหกรรมจังหวัดของท่าน” นายสุริยะกล่าว

น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยว่า ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้นำสิ่งของบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนในภาคอุตสาหกรรมได้รับรายงานจากอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ที่สำรวจ ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2563 จำนวนทั้งสิ้น 70 ราย มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 37 ล้านบาท แบ่งเป็น 1. ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 57 ราย มูลค่าความเสียหาย 26.8 ล้านบาท 2. ผู้ประกอบการเหมืองแร่ จำนวน 8 ราย มูลค่าความเสียหาย 10.1 ล้านบาท และ 3. ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน จำนวน 5 ราย มูลค่าความเสียหาย 770,000 บาท

สำหรับโรงงานที่เข้าไปตรวจเยี่ยม เป็นโรงงานประกอบธุรกิจเหมืองแร่และโรงแต่งแร่ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท เอเซียเหมืองแร่อุตสาหกรรม จำกัด อ.ท่าศาลา ถูกน้ำท่วมเข้าไปในโรงงานทำให้ไม่สามารถดำเนินงานได้ และมีแร่บางส่วนที่เตรียมส่งมอบลูกค้าสูญหายไปกับน้ำ ประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 6 ล้านบาท แห่งที่ 2 คือ บริษัท พี แอนด์ เอส แบไรท์ ไมน์นิ่ง จำกัด อ.ท่าศาลา น้ำท่วมโรงแต่งแร่ทำให้ต้องหยุดประกอบกิจการ มูลค่าความเสียหาย 3 แสนบาท

 


น.ส.สุชาดากล่าวว่า จากนั้นได้ลงพื้นที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดนคร แดรี่ พลัส อ.พระพรหม ประกอบกิจการผลิตนมพาสเจอไรซ์ ถูกน้ำท่วมเครื่องจักรต้องหยุดประกอบกิจการ รวมถึงวัตถุดิบคือน้ำนมดิบที่รับซื้อมาแล้วเสียหายต้องทิ้งทั้งหมด และทำให้ไม่สามารถส่งนมโรงเรียนได้ตามเวลาที่กำหนด ความเสียหายเบื้องต้นรวมกว่า 8 ล้านบาท และห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี.ซี.จักรกล และก่อสร้าง อ.ร่อนพิบูลย์ ประกอบกิจการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ ผลิตภัณฑ์คอนกรีตทุกชนิด และแอสฟัสติกคอนกรีต ได้รับผลกระทบทั้งในโรงงาน รถทำถนนของบริษัทที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ตาชั่งและกำแพงโรงงานพังเสียหายทั้งหมด เสียหายเบื้องต้นกว่า 10 ล้านบาท

“ขณะนี้ในพื้นที่ประสบภัยมีผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบส่วนหนึ่ง และอาจจะมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ให้ข้อมูล ซึ่งทางกระทรวงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการเหล่านี้แจ้งเข้ามายังอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่ที่โรงงานประกอบกิจการอยู่ เพื่อทางกระทรวงจะได้ให้หามาตรการในการช่วยเหลือต่อไป” น.ส.สุชาดา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น