xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.คาดน้ำมันดิบปี 64 อยู่ที่ 45-55 เหรียญ/บาร์เรล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท. (PRISM Expert) ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่น สอท. คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2564 อยู่ที่ 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2563 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้น และความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่การฟื้นตัวของตลาดน้ำมันยังมีความเสี่ยงหากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ 2020 The Annual Petroleum Outlook Forum ภายใต้หัวข้อ “The Great Reset : เมื่อโรคปฏิวัติโลก… เจาะลึกจุดเปลี่ยนโลกพลังงาน” ซึ่งทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของกลุ่ม ปตท. หรือ PRISM Expert ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วันนี้ (26 พ.ย.) ว่าทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน กลุ่ม ปตท.คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2564 อยู่ที่ 45-55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2563 เนื่องด้วยสัญญาณบวกจากความก้าวหน้าการพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนานาประเทศ และแนวโน้มการใช้พลังงานทดแทน

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิเคราะห์มองว่าการฟื้นตัวของตลาดน้ำมันยังคงมีความเสี่ยง หากการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดการระบาดต่อเนื่องและยังไม่สามารถควบคุมได้จะเป็นตัวกดดันทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวที่ระดับ 35-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

“การวิเคราะห์สถานการณ์พลังงานที่น่าสนใจจากทีม PRISM Expert ของกลุ่ม ปตท. และการร่วมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะช่วยเตรียมความพร้อมในการวางแผนการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ หลังโลกและธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก รวมถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจและวิถีการดำเนินชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป ความรวดเร็วที่จะพร้อมรับมือต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ตลอดจนการเผยแพร่ข้อมูลพลังงานให้สังคมมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง สร้างความเข้มแข็งในสังคมไทยด้วยความรู้จริง จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วนทั้งในวันนี้และอนาคต เพื่อร่วมกันสร้างการเติบโตของสังคมและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth for All) ตามนโยบายของกลุ่ม ปตท.”

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เผยถึงทิศทางของตลาดน้ำมันโลกว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็น “The Great Reset หรือจุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในปี 2563 ปรับลดลงมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ส่งผลให้หลายฝ่ายรวมถึงผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกรวมตัวกันเพื่อหาทางรักษาสมดุลให้กับตลาดน้ำมัน โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว คือ การผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ และนโยบายการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่มีบทบาทสำคัญเพื่อช่วยสร้างสมดุลการเติบโตเศรษฐกิจในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น