กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลงนามสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ผลักดันการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานครั้งนี้สืบเนื่องจากนโยบายด้านการขับเคลื่อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายเดิมที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ และสอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยให้เป็นเมืองสะอาด ตลอดจนนำพาประเทศสู่โลกยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดเป้าหมายการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ปี 2573 ไว้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานและบุคลากรที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ
นายยศพล เวณุโกเศศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา หรือ สอศ. จะร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันกระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายขับเคลื่อนโครงการศูนย์การเรียนรู้ หรือ Excellent Center (EC) สำหรับการฝึกทักษะอาชีพให้แก่นักศึกษา โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการพัฒนาให้ครอบคลุม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และในอนาคตวางเป้าหมายเปิดศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEC) โรงเรียนต้นแบบแห่งแรกเพื่อเป็นศูนย์กลางการสร้างความร่วมมือระหว่างโรงเรียน-เอกชนในระดับภูมิภาค มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคคล สู่การเป็นมนุษย์ที่มีความเป็นเลิศ ตามมาตรฐานสากล
ปัจจุบัน สอศ.มีหลักสูตรสำคัญที่เปิดสอนในปีการศึกษา 2564 คือ สาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางาน (ย่อย) เทคนิคยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งหมด 16 วิทยาลัย ซึ่งสามารถต่อยอดด้านกำลังผลิตได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และยังมีการทำความร่วมมือทวิภาคร่วมกับบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์หลายบริษัท ซึ่งอยู่ในโครงการ EC โดยได้ร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคฉะเชิงเทราในสังกัดของ สอศ.ดำเนินโครงการ EC ในด้านยานยนต์ ดังนั้น ทางอาชีวศึกษามีความพร้อมในการผลิตนักศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ผลิต
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตลอดจนเครือข่ายศูนย์วิจัยทั่วประเทศจะสามารถช่วยในการสนับสนุนข้อมูลการใช้ห้องปฏิบัติการเครื่องมืออุปกรณ์ โรงงานต้นแบบ ให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นเครือข่ายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาต่อยอดให้ธุรกิจอุตสาหกรรมมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยการสนับสนุนดังกล่าวจะสามารถลดต้นทุน พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพการผลิตด้วยความช่วยเหลือของนักวิจัยระดับชาติ ส่งต่องานวิจัย จากหิ้งสู่ห้างได้สำเร็จ โดยผ่านกระบวนการเชื่อมโยงกับหน่วยงานในระดับจังหวัดในการขยายผลขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืนต่อไป