“ส.อ.ท.” เตรียมลุ้นยอดการผลิตรถยนต์ปี 2563 ทะลุเป้า 1.4 ล้านคันหลังสัญญาณการผลิตและการจำหน่ายดีขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะรถกระบะ ชี้ให้เห็นสัญญาณ ศก.กำลังฟื้นตัวหากโควิด-19 ไม่ระบาดรอบ 2
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์ ต.ค. 63 มีทั้งสิ้น 1.49 แสนคันลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.24% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 63) มียอดผลิตรถยนต์รวม 1.112 ล้านคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 35.53% หากดูแนวโน้มการผลิตที่เริ่มหดตัวในอัตราที่ลดลงต่อเนื่องยอดการผลิตรถยนต์ปี 2563 ที่ตั้งเป้าไว้ 1.4 ล้านคันมีโอกาสสูงที่จะทะลุเป้าหมายดังกล่าว
“เราวางเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ 1.4 ล้านคัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 7 แสนคัน ซึ่งหากดูตัวเลขล่าสุดมีโอกาสที่จะทะลุ 7 แสนคัน ผลิตเพื่อส่งออกที่ตั้งเป้าไว้ 7 แสนคันก็น่าจะใกล้เคียงแต่ต้องไม่มีการกลับมาระบาดโควิด-19 รอบ 2 โดยการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่น่าจับตาคือรถกระบะที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัว” นายสุรพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ เดือน ต.ค.ผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศคิดเป็น 55.01% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 18.81% และ 10 เดือนแรกผลิต 5.35 แสนคัน คิดเป็น 48.17% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 35.20% ขณะที่ผลิตเพื่อส่งออก ต.ค.คิดเป็น 44.99% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.65% ส่งผลให้ 10 เดือนแรกปี 63 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 5.76 แสนคัน คิดเป็น 51.83% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 35.83%
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 7.42 หมื่นคัน ลดลงน้อยลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วเหลือแค่ 1.4% จากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคของรัฐบาล การประกันรายได้พืชผลของรัฐบาล การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และการส่งเสริมการขายของผู้จำหน่าย ส่งผลให้ 10 เดือนแรกปีนี้มียอดขาย 5.92 แสนคัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 27.4%
