นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หรือกว่า 2 ทศวรรษ การพัฒนาและสร้างสรรค์สินค้าและบริการรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์องค์กรที่ว่า โออิชิ “เป็นผู้นำและสร้างสรรค์ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้บริโภค และสร้างการเติบโตแก่ธุรกิจอย่างยั่งยืน”
“ความเคลื่อนไหวล่าสุด เรา (โออิชิ) มีแนวทางในการเสริมแกร่งพอร์ตฟอลิโอ กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น และขยายธุรกิจให้กว้างขึ้น ภายใต้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก แกนสำคัญหนึ่งคือสปินออฟแบรนด์ (Spin-Off Brands) เพื่อเพิ่มโอกาสขายและเข้าถึงผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ซึ่งเน้นที่การสร้างแบรนด์ใหม่ เจาะตลาดใหม่-เซกเมนต์ใหม่ และจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ พร้อมกันนี้ ยังได้สร้างสรรค์และเปิดตัวแบรนด์/ร้านอาหารญี่ปุ่น บริการระดับพรีเมียม ภายใต้ชื่อ “ซาคาเอะ” (SAKAE : The Signature Taste of Shabu Shabu and Sukiyaki) ชูสุดยอดวัตถุดิบ เนื้อวากิวระดับพรีเมียมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ผสานรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ หนึ่งเดียวของชาบู-ชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น เจาะตลาดพรีเมียม ซึ่งจับกลุ่มเป้าหมายระดับบนและกลางเป็นหลัก” นายไพศาลกล่าว
สำหรับ “ซาคาเอะ” นั้นเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทชาบู-ชาบู และสุกี้ยากี้ พร้อมส่งมอบประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นขนานแท้ระดับพรีเมียม ผ่านเสน่ห์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ หนึ่งเดียวของชาบู-ชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น ชูสุดยอดทีเด็ด วัตถุดิบคัดสรรและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งได้แก่ เนื้อวากิว ระดับ A4 (Japanese Wagyu (A4) Beef) เนื้อวากิว ระดับ F1 (Japanese Tokusen Wagyu (F1) Beef) และ เนื้อซาคาเอะ ซิกเนเจอร์ (Sakae Signature Beef) หรือเนื้อส่วนสันคอวัว จัดเสิร์ฟเป็นชุดต่อท่าน พร้อมเครื่องเคียง และน้ำซุปต้นตำรับ ซึ่งมีให้เลือก 2 สูตร ทั้งกลมกล่อมและเข้มข้น คือ น้ำซุปน้ำใส รสชาติเบาๆ แต่กลมกล่อม (สำหรับชาบู-ชาบู) หรือน้ำซุปน้ำดำ รสชาติเข้มข้น (สำหรับสุกี้ยากี้) โดยปักหมุดเปิดให้บริการสาขาแรก ณ โครงการเดอะ ปาร์ค ไลฟ์-ถนนพระรามที่ 4 (แยกคลองเตย) อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้
“จากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “ซาคาเอะ” ส่งผลให้ธุรกิจอาหาร กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น โออิชิ โดยภาพรวมในวันนี้มีความหลากหลาย ตั้งแต่ประเภทร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant “QSR”) ร้านอาหารระดับกลาง (Casual Dining Restaurant) ไปจนถึงร้านอาหารระดับบน (Fine-Dining Restaurant) และมีความครอบคลุมมากขึ้น ตั้งแต่เซกเมนต์ตลาดแมส ตลาดพรีเมียมแมส ไปจนถึงตลาดพรีเมียม และสามารถตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม หลากหลายระดับ” นายไพศาลกล่าวปิดท้าย