การตลาด - พี่ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ปั้นคอนเทนต์ “ซีรีส์วาย” ทำสาวน้อยสาวใหญ่จิ้นทั่วเอเชีย จนนั่งบัลลังก์ครองความเป็นฮับสายวายไปแล้ว เกมนี้เส้นชัยอยู่แค่เอื้อม เชื่อดันกระแส “ไทยคัลเจอร์” ตีตลาดโลก เทียบชั้น “เคป็อป” ได้ในระยะอันใกล้ ชี้คอนเทนต์โพรวายเดอร์ของไทย หันผลิตคอนเทนต์ซีรีส์วายกันเพียบ พร้อมปั้นศิลปินดารานักแสดงชายจนกลายเป็นซุป'ตาร์ดังชั่วข้ามคืน ฟากสถานีโทรทัศน์หลายช่องต่างอ้าแขนรับซีรีส์วายลงจอเรียกเรตติ้งกันคึกคัก งานพรีเซ็นเตอร์ อีเวนต์วิ่งเข้าใส่มากมาย ใครจะเชื่อ 2 ปีนี้เมืองไทยผลิตซีรีส์วายมากกว่า 100 เรื่อง คิดเป็น 30% ของคอนเทนต์ละครทั้งหมดที่ออกอากาศ หรือมีมูลค่ารวมทะลุ 1,000 ล้านบาท
ประเทศไทยกำลังเป็นที่จับตามองของตลาดคอนเทนต์โลก โดยไทยถูกยกให้เป็นฮับด้านคอนเทนต์กลุ่ม “ซีรีส์วาย” ไปแล้ว เพราะพี่ไทยเราทำคอนเทนต์กลุ่มนี้ออกมาได้ดี มีความเรียล ละมุน และสะดุดต่อมจิ้นของสาววายอย่างจัง ไม่ว่าจะเป็นสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งในไทยและหลายๆ ประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ซีรีส์วายของไทยได้รับความนิยมสูงมาก ตามมาด้วย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และพม่า เห็นได้จากกระแสความดังของเหล่าดารานักแสดงกลุ่มนี้ที่ดังมากๆ และเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากกว่าในประเทศ
การที่กระแสซีรีส์วายได้รับความนิยมสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่แบบนี้ มันมีจุดเริ่มต้นมาจากทางประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดจากหนังสือการ์ตูนคอมิกที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับชายรักชายมาก่อน จากนั้นลามไปสู่การจิ้นของเหล่าแฟนคลับสาวๆ กับกลุ่มศิลปินนักร้องแบบวงบอยแบนด์จากทางประเทศเกาหลีที่ตนเองชื่นชอบ แต่นั่นเป็นเพียงการจิ้นแบบเบาๆ ยังจับต้องไม่ได้
ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ทำให้สายวายจับต้องได้มากที่สุดในขณะนี้ จากการเป็นผู้บุกเบิกในการปั้นคอนเทนต์ “ซีรีส์วาย” ออกมาเป็นรายแรกของโลก จึงยิ่งส่งผลให้กระแสสายวายจิ้นกันฟินเวอร์จนติดลมบนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
* “ซีรีส์วาย” แจ้งเกิด นำคอนเทนต์ไทยโกอินเตอร์
การเปิดตลาดคอนเทนต์ซีรีส์วายของไทยนั้นเกิดขึ้นมาได้ราว 7 ปีแล้ว เริ่มจาก “เลิฟซิค เดอะซีรีส์ รักวุ่น วัยรุ่นแสบ : Love Sick The Series” นำแสดงโดย ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม และ กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง ออกอากาศทางช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ จากทีมโปรดักชันของ “โอ๋-ยชญ กรณ์หิรัญ” จนเรียกได้ว่าเป็นตัวพ่อของวงการสายวายที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นอันดับ 1 ในการผลิตคอนเทนต์ซีรีส์วายในปัจจุบัน
นายยชญ กรณ์หิรัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาและภาพรวมซีรีส์วายว่า กระแสจิ้นสายวายมีมานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการจิ้นนักร้องศิลปินชายเกาหลีในวงเดียวกันเป็นหลัก แต่ถ้าเป็นการจิ้นจากคอนเทนต์ซีรีส์วายแล้ว ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่สร้างขึ้นมา และกำลังได้รับความนิยมสูงมากทั้งในและต่างประเทศ จากเดิมที่ถือเป็นคอนเทนต์ทางเลือก หรือนิชมาร์เกต เจาะกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะกลุ่ม ปัจจุบันกำลังก้าวสู่ตลาดแมสมากขึ้น หรือจากที่ดังเฉพาะในช่องทางรับชมออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ปีนี้จะเห็นการออกอากาศทางช่องทางสถานีโทรทัศน์ในหลายๆ ช่องมากขึ้น ผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ๆ ก็หันมาผลิตคอนเทนต์ซีรีส์วายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“ปัจจัยที่ทำให้ซีรีส์วายได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมากนั้น ส่วนสำคัญมาจากฐานผู้ชม หรือสาวกแฟนคลับที่เป็นกลุ่มผู้หญิงทั้งสาวเล็กสาวใหญ่ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นผู้บริโภคหลักของการตัดสินใจซื้ออยู่แล้ว และจากแต่ก่อนสาวๆ กลุ่มนี้ตามจิ้นกันมาปัจจุบันก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สาวกสาวน้อยรุ่นใหม่ๆ ก็ตามเข้ามาสู่วงการนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันคนไทยเองก็เป็นกลุ่มคนที่เปิดใจและเปิดกว้างรับสิ่งใหม่ๆ จึงทำให้ซีรีส์วายเกิดขึ้นได้ดีไม่มีสะดุด และมีศักยภาพมากขึ้นตามลำดับ จากนิชมาร์เกต จึงกลายเป็นแมสมาร์เกต ส่งผลให้การรับชมจากออนไลน์ขยายมาสู่ช่องทางทีวีในที่สุด”
นายยชญกล่าวต่อว่า จากกระแสซีรีส์วายที่กำลังจิ้นฟีเวอร์ขึ้นเรื่อยๆ นี้ มองว่าคอนเทนต์ซีรีส์วายของไทยมีศักยภาพมากพอในการส่งออก “ไทยคัลเจอร์” ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมด้านต่างๆ ภาคการท่องเที่ยว และอื่นๆ ผ่านคอนเทนต์ซีรีส์วายและตัวศิลปินดารา ไปสู่ตลาดโลกได้ในระยะอันใกล้นี้
เช่นเดียวกับประเทศเกาหลี ที่ส่งออก “K-pop” จนดังไปทั่วโลก เห็นได้จากช่องทางออนไลน์ หรือแพลตฟอร์ม OTT ของต่างประเทศที่เข้ามาเปิดให้บริการในไทยและนำไปออกในประเทศตัวเอง อย่าง We TV, Line TV, Viu และ Netflix ที่มีความต้องการคอนเทนต์ไทยอย่างมาก โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับสายวาย
* “ซีรีส์วาย” ขุมทรัพย์ทะลุ 1,000 ล้านบาท
นายยชญกล่าวด้วยว่า เฉพาะคอนเทนต์ซีรีส์วาย ปัจจุบันมีมูลค่าราว 100 ล้านบาท ถือว่ายังเล็กมากเมื่อเทียบกับคอนเทนต์ละครทั้งหมดที่เป็นคอนเทนต์หลักคนไทยชอบดู แต่หากมองในองค์รวมแล้ว ซีรีส์วายสามารถต่อยอดมูลค่ากับการหารายได้ได้อย่างมหาศาล หรือในปัจจุบันน่าจะมากถึง 1,000 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากความนิยมชื่นชอบในตัวดารานักแสดง ที่มาในรูปแบบของการเล่นโฆษณา การเป็นพรีเซ็นเตอร์ อีเวนต์ ขายบัตรมีตแอนด์กรี๊ด และการเป็นศิลปินนักร้องวงบอยแบนด์ รวมถึงในรูปแบบ KOL ของตัวดารานักแสดงคนนั้น
ทั้งนี้ หากเฉพาะเจาะลงไปในตัวดารานักแสดงซีรีส์วาย เชื่อว่ามีมูลค่าสูงมาก โดยเฉพาะดารานักแสดงที่มีฐานแฟนคลับ หรือยอดผู้ติดตามในช่องทางออนไลน์สูงๆ ซึ่งแฟนคลับมีทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะฐานแฟนคลับในประเทศจีน ที่ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก
สำหรับสตาร์ ฮันเตอร์ ปัจจุบันคอนเทนต์ที่ผลิตออกมากว่า 80-90% จะเป็นซีรีส์วาย และมีดารานักแสดงสายวายในสังกัดกว่า 20 คน โดยมี “บาส-สุรเดช” กับซีรีส์วายสร้างชื่อคือเรื่อง “เดือนเกี้ยวเดือน” ถือเป็นดาราอันดับ 1 ที่มีฐานแฟนคลับสูงสุดทั้งในไทย และเอเชีย
* “กันตนา - ช่อง 3 - ช่อง 8” น้องใหม่ซีรีส์วาย*
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ซีรีส์วายได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ผลิตคอนเทนต์ หรือคอนเทนต์โพรวายเดอร์ หันมาผลิตซีรีส์ประเภทนี้มากขึ้น ซึ่งนอกจาก สตาร์ ฮันเตอร์ ที่เน้นผลิตคอนเทนต์วายกว่า 80- 90% ของคอนเทนต์ทั้งหมดแล้ว ยังมีกลุ่มยักษ์ใหญ่อย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยทีม GMM TV ก็เป็นอีกรายที่ขึ้นชื่อเรื่อง ซีรีส์วาย กับผลงานที่เพิ่งจบไปไม่นาน “เพราะเราคู่กัน 2gether The Series” หรือ คั่นกู ส่งผลให้ คู่จิ้น “ไบร์ทวิน” แจ้งเกิดเป็นซุป'ตาร์ดังไปถึงประเทศจีนทันที
นอกจากนี้ ทีวี ธันเดอร์ เป็นอีกรายที่เข้ามาบุกเบิกซีรีส์วายเป็นรายแรกๆ ตั้งแต่ราว 5 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่อยู่บนแพลตฟอร์ม OTT กับผลงานหลายๆ เรื่อง เช่น “Together With Me อกหักมารักกับผม” และภาคต่อกับ “Together With Me The Next Chapter” ให้กับทาง Line TV จนโด่งดังในต่างประเทศอย่างมาก ทั้งในจีน ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย เป็นต้น
“ปี 2563 นี้ไปจนถึงปีหน้า ทีวี ธันเดอร์จะเน้นผลิตคอนเทนต์ซีรีส์ในช่องทาง OTT เป็นหลัก รวมกว่า 7 เรื่อง เช่น Manner of Dead พฤติการที่ตาย ซึ่งเป็นซีรีส์วาย ป้อนให้ทาง WE TV ภายใต้การลงทุนในการผลิตคอนเทนต์ที่จะต้องใช้มากขึ้นราว 20% ถือเป็นปีแรกที่กลับมาลงทุนสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของการผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับ OTT โดยมองว่าในปี 2564 รายได้ในส่วนฟรีทีวีและ OTT จะอยู่ในสัดส่วน 50% เท่าๆ กัน ขณะที่ช่องทางออนไลน์น่าจะอยู่ที่ 5% หรือในปีหน้าจะกลับมามีรายได้เติบโตอีกครั้ง” นายณฐกฤต วรรณภิญโญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าว
ล่าสุดในแง่คอนเทนต์โพรวายเดอร์กับทางค่าย “กันตนา” ถือเป็นผู้เล่นรายใหม่สุดที่หันมาจับตลาดวาย โดยได้ร่วมมือกับทางสตาร์ ฮันเตอร์ กับ 4 โปรเจกต์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ประกอบด้วย หนึ่งรายการวาไรตี และซีรีส์วายอีก 3 เรื่อง ภายใต้ดาราศิลปินในสังกัดจากทั้ง 2 ค่าย
นางศศิกร ฉันท์เศรษฐ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า หลายปีมานี้ กระแสคอนเทนต์สายวาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ละคร หรือรายการ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และเฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมามีการผลิตซีรีส์วายออกมาไม่ต่ำกว่า 100 เรื่อง ซึ่งยังไม่รวมถึงงานภาพยนตร์ ละคร และ โฆษณาอีกเป็นจำนวนมาก
“ทั้งนี้ พบว่าคอนเทนต์สายวายได้ขยายจากตลาดเฉพาะกลุ่ม เป็นตลาดแมสและเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างมากขึ้นหลายเท่าตัว ยิ่งทำให้เป็นอีกหนึ่งเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม Early adopter ที่เป็นกลุ่มคนหัวก้าวหน้า เปิดรับนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ ได้เร็ว ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เช่นเดียวกับคอนเทนต์ที่กันตนาผลิต เช่น The Face Thailand, Drag Race Thailand, King of Gamers ที่มีการแบ่งเซกเมนต์แบบเฉพาะกลุ่มในสื่อออนไลน์ ก่อนขยายสู่สื่อแมสบนหน้าจอทีวี ผลักดันกระแสให้เกิดความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กันตนาได้ร่วมกับทาง บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในการผลิตคอนเทนต์สายวายนั่นเอง” นางศศิกรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของสถานีโทรทัศน์ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่พบว่าหลายๆ ช่องกำลังให้ความสนใจส่งซีรีส์วายออกอากาศเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 3 ที่ชิมลางไปบ้างแล้วกับละครเรื่อง ซ่อนเงารัก แต่ยังไม่ถือว่าเป็นซีรีส์วายโดยตรง แต่ขณะนี้กำลังถ่ายทำอยู่ คือเรื่อง “คุณหมีปาฏิหาริย์” ถือเป็นละครซีรีส์วายเรื่องแรกของช่อง 3 ตามมาด้วยเรื่อง “นับสิบจะจูบ” ที่ถือเป็นซีรีส์วายเรื่องที่สอง ที่จะนำมาเสริมทัพคอนเทนต์ละครต่อไป
ขณะเดียวกัน ช่อง 8 ถือเป็นอีกช่องหนึ่งที่แว่วว่ากำลังสนใจคอนเทนต์ซีรีส์วายเช่นกัน ซึ่งน่าจะทำเอง หรือจ้างผลิตจากผู้จัดละครที่เป็นพันธมิตร ส่วนภาพรวมสถานีโทรทัศน์ช่องหลักของไทยพบว่า ช่องใหญ่ๆ เปิดกว้างให้กับซีรีส์วายไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ช่อง GMM25, ช่องวัน, ช่อง 9 ล่าสุดคือช่อง 3 และที่จะตามมาคือช่อง 8 โดยเหลือช่อง 7 เพียงช่องเดียวที่ยังไม่มีสัญญาณออกมาว่าจะหันมาลงเล่นในตลาดซีรีส์วายหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อซีรีส์วายกลายเป็นแมสมาร์เกตแล้ว เชื่อว่าช่อง 7 เองจะเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่จะไม่มีทางมองข้ามซีรีส์วายไปได้