xs
xsm
sm
md
lg

KTIS คาดปีนี้กำไรใกล้เคียงปีก่อน 740 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



KTIS ลุ้นปีนี้มีกำไรใกล้เคียงปีก่อนที่ 740 ล้านบาท เผยพอใจระดับราคาน้ำตาลโลกที่ 13 เซ็นต์/ปอนด์ เดินหน้าโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ ที่ดีเลย์ผลิตเชิงพาณิชย์ไปเป็นไตรมาส 4/64

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงปีที่แล้วที่ระดับ 740 ล้านบาท เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 13 เซ็นต์ต่อปอนด์ เป็นระดับที่ผู้ผลิตน้ำตาลในไทยรวมทั้ง KTIS อยู่ได้

ในปีนี้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทยโดยรวมได้รับผลกระทบจากปริมาณผลผลิตอ้อยที่ลดน้อยลงทั้งระบบ โดยงวดปี 2562/63 มีปริมาณผลผลิตอ้อย 74.9 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่มีผลผลิตอ้อย 131 ล้านตัน จากปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง โดยบริษัทมีปริมาณอ้อยอยู่ที่ 5.7 ล้านตัน ลดลงจาก 9.9 ล้านตัน และผลิตน้ำตาลได้ 6 ล้านกระสอบ ลดลงจากปีก่อนที่ 10.3 ล้านกระสอบ

นายณัฎฐปัญญ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนธุรกิจเอทานอลในปีนี้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้ลดลง จาก 4.23 ล้านลิตรในเดือน มี.ค. 63 เหลือเพียง 3.5 ล้านลิตรในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่มีสัญญาณความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นในเดือน มิ.ย.นี้มาอยู่ที่ 4.02 ล้านลิตร โดยในช่วงล็อกดาวน์บริษัทได้นำเอทานอลมาผลิตเป็นแอลกอฮอล์ในราคาถูกเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการขาดแคลนและราคาแอลกอฮอล์ที่ขายเกินจริง

นายณัฎฐปัญญ์กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC Project) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท จีจีซี เคทิส ไบโออินดัสเตรียล จำกัด (GKBI) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของกลุ่ม KTIS กับกลุ่มบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในอัตราส่วน 50 ต่อ 50 ว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะเดินหน้าต่อแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้เกิดความล่าช้าในการนำเข้าเครื่องจักรและปริมาณอ้อยไม่เพียงพอต่อการหีบในฤดูการหีบปี 2564 คาดว่าโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เนื่องจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เคยเป็นผู้ริเริ่มโครงการดังกล่าว

โครงการนครสวรรค์ ไบโอคอมเพล็กซ์ ระยะที่ 1 จะมีการลงทุนโรงงานหีบอ้อยกำลังการผลิต 24,000 ตันต่อวัน โรงงานผลิตเอทานอลกำลังการผลิต 600,000 ลิตรต่อวัน และโรงงานผลิตไฟฟ้าและไอน้ำกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า 85 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 475 ตันต่อชั่วโมง คาดว่าโครงการดังกล่าวจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2564 จากเดิมที่เคยคาดการณ์ในปลายปีนี้

ผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2563 บริษัทมีรายได้รวม 11,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 10,768 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น