xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ประกาศเริ่มใช้งานระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองใหม่ 20 ก.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการค้าต่างประเทศประกาศเริ่มใช้ระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองแบบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ย้ำผู้ส่งออกที่เคยขึ้นทะเบียนภายใต้โครงการนำร่อง 1 และ 2 รวมถึงรายใหม่ ต้องมาขึ้นทะเบียนใหม่ทั้งหมด มั่นใจช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้า ลดค่าใช้จ่าย และมีโอกาสค้าขายกับอาเซียนได้เพิ่มขึ้น

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการอาเซียน แจ้งว่าประเทศสมาชิกสามารถใช้ระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองแบบใหม่ หรือที่เรียกว่าระบบ AWSC (ASEAN Wide Self-Certification) ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2563 โดยได้ยุติการดำเนินการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองภายใต้โครงการนำร่องที่ 1 และ 2 ซึ่งกรมฯ ได้ออกประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่องการขึ้นทะเบียนและการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองตามความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน พ.ศ. 2563 เพื่อกำหนดคุณสมบัติผู้ขึ้นทะเบียน และวิธีการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองแล้ว ดังนั้น ผู้ประกอบการเดิมที่เคยขึ้นทะเบียนในโครงการนำร่องการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองที่ 1 และที่ 2 รวมทั้งผู้ประกอบการรายใหม่จะต้องมาขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ระบบ AWSC ตามประกาศดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ กรมฯ ได้จัดทำระบบการขึ้นทะเบียน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการขึ้นทะเบียนเป็น “ผู้ส่งออกที่ได้รับการรับรอง” (Certified Exporter) โดยผู้ส่งออกสามารถขึ้นทะเบียนได้ผ่านเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (www.dft.go.th) เพื่อดำเนินการกรอกข้อมูลการขึ้นทะเบียน Certified Exporter พร้อมแนบเอกสารหลักฐานประกอบการขึ้นทะเบียนผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทางมายื่นเอกสารที่กรมฯ

“การดำเนินการระบบ AWSC จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและลดค่าใช้จ่ายในการส่งออก และหวังให้ผู้ประกอบการไทยหันมาใช้การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการยอมรับระบบ AWSC เสมือนการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D ซึ่งจะทำให้มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพิ่มมากขี้น” นายกีรติกล่าว

สำหรับผลการดำเนินการภายใต้โครงการนำร่องการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองที่ 1 และ 2 ปรากฏว่าไทยมีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกที่ได้สิทธิ์มากที่สุดในอาเซียน โดยภายใต้โครงการนำร่องที่ 1 จำนวน 211 ราย และโครงการนำร่องที่ 2 จำนวน 122 ราย รวมทั้ง 2 โครงการจำนวน 333 ราย และมีการส่งออกโดยใช้สิทธิ์ ในปี 2561 ถึงปี 2563 (ม.ค.-ส.ค.) มูลค่าเท่ากับ 2,614.40 ล้านเหรียญสหรัฐ 1,931.54 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 533.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนเป็น Certified Exporter เพิ่มขึ้น กรมฯ ได้จัดกิจกรรมขึ้นทะเบียนสัญจร ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 16 ก.ย. 2563 เพื่อให้คำแนะนำในการขึ้นทะเบียน และการใช้ประโยชน์จากระบบ AWSC ในการส่งออกไปยังอาเซียน


กำลังโหลดความคิดเห็น