การบินไทยเปิดตัว Royal Orchid Dining Experience รุกธุรกิจ ภัตตาคาร First Class ที่สำนักงานใหญ่ เร่งขยายที่สำนักงานสีลมและหลานหลวง ภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ครัวการบินภาคพื้นเป็น 50% หรือ 2-3 พันล้าน ภายใน 5 ปีหลังโควิดฉุดรายได้ 90% จากสายการบินลูกค้าหาย
วันนี้ (9 ก.ย.) พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย เป็นประธานเปิดตัว Royal Orchid Dining Experience โดยได้นำอาหารจากบูธที่ได้รับความนิยม ในกิจกรรม ”อร่อยล้นฟ้า ไม่ต้องบินก็ฟินได้” ที่บริการในชั้น Business Class และ First Class เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสอาหารเหมือนบริการบนเครื่องบิน โดยได้มีการปรับห้องอาหารสำนักงานใหญ่ นำวัสดุ อุปกรณ์ เก้าอี้จากห้องโดยสาร และอะไหล่ของเครื่องบินที่หมดอายุการใช้งาน ตกแต่งสถานที่ เพื่อสร้างบรรยากาศ ใช้ล้อยางเครื่องบินเป็นโต๊ะนั่งเล่น นำโมเดล เครื่องบิน เครื่องยนต์ มาแสดงเป็นจุด Check-in เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้า
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฝ่ายครัวการบิน เป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ซึ่งขณะนี้ ลูกค้ายังไม่สามารถเดินทางได้ตามปกติ ซึ่งจากที่ได้ทดลองตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค. ช่วงวันพุธ-พฤหัส-ศุกร์ ลูกค้าตอบรับดีมาก มียอดจองเข้ามาค่อนข้างมากซึ่งจะเพิ่มบริการให้มากขึ้นและพัฒนารูปแบบเป็นภัตตาคาร นอกจากนี้ มีแผนจะขยายไปสำนักงานสาขาในกรุงเทพฯ ที่มีพื้นที่อาคารของการบินไทยตั้งอยู่ เช่น สำนักงานสีลม และหลานหลวง ซึ่งจะออกแบบร้านและบริการให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละแห่ง
“ปัจจุบันแม้การบินระหว่างประเทศยังไม่สามารทำได้ตามปกติ การบินไทยยังมีรายได้จากคาร์โก้ บริการภาคพื้น และด้านซ่อมบำรุง ประกอบกับมีการปรับลดค่าใช้จ่ายลงโดยเฉพาะต้นทุนสำคัญ คือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง”
ด้านนางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทยกล่าวว่า ในปี 2562 ครัวการบิน มีรายได้ 8,900 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากบริการสายการบิน 90% บริการร้านอาหารธุรกิจภาคพื้น Puff & Pie Bakery House ประมาณ 10% หลังจากเกิดโรคโควิด-19 สายการบินหยุดทำการบิน รายได้ในส่วนการบินหายไป จึงได้หารายได้เพิ่มจากธุรกิจภาคพื้น เพิ่มบริการแบบ Delivery ออกอีเวนต์ ขยายสาขาร้าน Puff & Pie ให้ครบทุกจังหวัด ซึ่งยังเหลือประมาณ 30-40 จังหวัด ล่าสุดมีธุรกิจภัตตาคารซึ่งภายในปีนี้จะขยายที่สาขาสีลม และหลานหลวง รวมถึงภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ ส่วนตลาดต่างประเทศจะอยู่ภายใต้ครัวไทยสู่ครัวโลกเชื่อว่าจะเพิ่มยอดขายได้
จากที่ได้ทดลองเปิดบริการแบบภัตตาคารการบินไทย ช่วง 3-4 วัน มีรายได้ประมาณ 3-4 ล้านบาท คาดว่าการขยายสาขาเพิ่มจะสร้างรายได้ให้จุดละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยมูลค่าแต่ละร้านจะทำรายได้ประมาณ 100-200 ล้านบาทต่อเดือน โดยฝ่ายครัวการบินมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจภาคพื้นจาก 10% เป็น 50% ภายใน 5 ปีจากนี้ หรือเพิ่มรายได้จาก 800-900 ล้านบาท เป็น 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี