xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ทำลายของปลอม 7 แสนชิ้น มูลค่า 354 ล้าน สหรัฐฯ ชมไทยผลงานเยี่ยม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” โชว์ทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญากว่า 7 แสนชิ้น มูลค่า 354 ล้านบาท มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์ แว่นตา เครื่องสำอาง อาหาร ย้ำบริจาคไม่ได้เหตุเป็นของผิดกฎหมาย และไร้คุณภาพ เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อัครราชทูตที่ปรึกษาสหรัฐฯ พอใจผลการป้องกันและปราบปรามของไทย

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ จัดพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว โดยปีนี้พิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะมีการถ่ายทอดบรรยากาศสดจากสถานที่ทำลายของกลางในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นการทำลายของกลางที่สามารถเผาได้ และที่จังหวัดสระบุรี เป็นการทำลายของกลางที่เผาไม่ได้ด้วยการตัด บีบอัด และส่งออนไลน์มายังกระทรวงพาณิชย์ โดยมีหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 90 แห่งร่วมเป็นสักขีพยาน และมีส่วนร่วมในการทำลายของกลาง ผ่านโปรแกรม Zoom

“ของกลางในคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วจะต้องนำมาทำลายอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้นำกลับไปหมุนเวียนในท้องตลาด หรือนำกลับมาใช้ได้อีก เพราะของละเมิดบางอย่างเป็นอันตราย หรือคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคได้” นายวีรศักดิ์กล่าว

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ของกลางที่นำมาทำลายมี 785,376 ชิ้น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี วีซีดี แว่นตา เครื่องสำอาง หมวก ผ้าห่ม อาหาร เช่น กาแฟ น้ำปลา กุนเชียง หมูยอ เป็นต้น โดยเป็นของกลางจากการจับกุมและตรวจยึดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 293,310 ชิ้น กรมศุลกากร 285,842 ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ 206,224 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว 354 ล้านบาท

“มีการตั้งคำถามว่า ทำไมไม่เอาของกลางไปบริจาค ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะของกลางเป็นของผิดกฎหมาย ถ้าเอาไปบริจาคอาจกลับเข้ามาหมุนเวียนขายในตลาดได้อีก ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา อีกทั้งของกลางบางอย่างเป็นสินค้าที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน และอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เช่น ยา เครื่องสำอาง อาหาร อะไหล่รถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ ที่สำคัญ การทำลายของกลางเป็นการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ภายใต้ความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า (ทริปส์) ขององค์การการค้าโลก (WTO) ด้วย” นายทศพลกล่าว

สำหรับการจับกุมสินค้าละเมิดในปีนี้จับกุมแล้ว 1,250 คดี ยึดของกลางได้ 11.37 ล้านชิ้น ในจำนวนนี้เป็นบุหรี่ปลอมเครื่องหมายการค้า 11 ล้านมวน และสินค้าอื่นๆ อีก 351,482 ชิ้น ส่วนการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. 2563 มีผลการจับกุม 124 คดี ยึดของกลางได้ 15,107 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 24 ล้านบาท และยังได้มีการระงับและปิดกั้นเว็บไซต์ตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือน ก.ค. 2563 โดยศาลได้มีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายแล้ว 36 คำสั่ง รวม 1,501 URLs

นายไมเคิล ฮีธ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า พอใจผลการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย แต่มีสิ่งที่ยังเป็นห่วง คือ การซื้อ และใช้สินค้าปลอม โดยเฉพาะยา อาหาร และเครื่องสำอาง เพราะจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ส่วนการละเมิดบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยังมีการละเมิดภาพยนตร์ และเพลงของสหรัฐฯ แต่ไทยมีกฎหมายป้องกันและแก้ปัญหาในเรื่องนี้แล้ว โดยหวังว่าไทยจะเดินหน้าป้องกันและปราบปรามการละเมิดอย่างเข้มงวดต่อไป และอาจทำให้ไทยหลุดจากบัญชีประเทศที่ถูกจับตา (WL) ตามกฎหมายการค้าของสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น