xs
xsm
sm
md
lg

ปตท. จับมือ Plug and Play มุ่งหน้าเป็นผู้นำด้านองค์กรแห่งนวัตกรรมสู่เวทีโลก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ปตท. ปักหมุดการเป็นผู้นำด้านองค์กรแห่งนวัตกรรม ประกาศความร่วมมือกับ Plug and Play บริษัทผู้พัฒนาและบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพระดับโลก เฟ้นหาสตาร์ทอัพในระดับประเทศและนานาชาติ พัฒนาศักยภาพกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากล


เชื่อแน่ว่า หลายคนต้องรู้จักบริษัท พลั๊กแอนด์เพลย์ จำกัด หรือ Plug and Play แพลทฟอร์มนวัตกรรมขององค์กรชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Silicon Valley ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และมีสาขามากกว่า 32 สาขา ทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

โดยที่ผ่านมา Plug and Play ได้มีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำระดับโลกมากกว่า 400 บริษัท ในหลากหลายธุรกิจ โดยดำเนินการ Accelerator Program มากกว่าปีละ 50 ครั้ง และสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 200 บริษัทในแต่ละปี และสนับสนุนสตาร์ทอัพมากกว่า 10,000 บริษัทในแต่ละปี

ด้วยเหตนี้ จึงนับเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ ปตท. ได้ประกาศความร่วมมือกับ Plug & Play โดย “นายวรวัฒน์ พิทยศิริ” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับ Plug & Play จะเป็นการสร้างโอกาสที่สำคัญในการสรรหาสตาร์ทอัพทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย พร้อมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตามแนวคิด PTT หรือ Powering Thailand’s Transformation”

“ความร่วมมือในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาศักยภาพกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการเรียนรู้ด้วยวิธีการของ Plug and Play และบริษัทชั้นนำทั่วโลก เพื่อขับเคลื่อนให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมไปสู่เวทีโลก พร้อมทั้งนำพาประเทศไทยให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากล” นายวรวัฒน์ พิทยศิริ กล่าวย้ำวิสัยทัศน์

ขณะที่ Shawn Dehpanah รองประธาน Plug and Play ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ปตท. ได้ร่วมมือกับ Plug and Play ภายใต้โครงการสมาร์ทซิตี้ ซึ่งจะมีธุรกิจแนวหน้าจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ มารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงานและความยั่งยืน, อสังหาริมทรัพย์, การขับเคลื่อน, IoT และ สุขภาพดิจิทัล ที่พร้อมจะช่วยตอบโจทย์การแก้ปัญหาต่าง ๆ ตามความต้องการของ ปตท. ไม่ว่าจะเป็น การสร้างธุรกิจด้านพลังงานใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน, การขับเคลื่อนด้านการเดินทางในระบบขนส่งรูปแบบใหม่ และการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยให้เข้าสู่ Industry 4.0”


ทั้งนี้ ผลดีที่จะตามมาจากการประสานความร่วมมือกับ Plug and Play จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับ ปตท. ในการเข้าถึงเครือข่ายบริษัทเทคโนโลยีที่รวมไปถึงองค์กรใหญ่และสตาร์ทอัพทั่วโลก ทั้งที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์รวมถึงอินโดนีเซีย และที่สำคัญคือ ทำให้ ปตท. สามารถเชื่อมต่อกับบริษัทต่าง ๆ เหล่านี้ได้โดยตรง ช่วยเพิ่มโอกาสในการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และการจัด Workshop ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพในเครือ รวมทั้งเป็นช่องทางการส่งเสริมแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ ปตท.
ไม่เพียงเท่านั้น ยังทำให้ ปตท. สามารถศึกษาและนำข้อมูลด้านเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้คิดค้นและพัฒนาจากบริษัทสตาร์ทอัพทั้งหลาย ไปต่อยอดและสร้างธุรกิจ S-Curve ให้กับ ปตท. ภายใต้การบริหารจัดการโดยหน่วยงาน ExpreSo ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้าน Innovation ของ ปตท. ผ่านกลยุทธ์ 3 New ซึ่งประกอบไปด้วย

1. New Energy : สร้างธุรกิจด้านพลังงานใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายทางความยั่งยืน และความมั่นคงทางพลังงาน ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบปรับปรุงประสิทธิภาพของแผงเซลล์แสงอาทิตย์

2. New Mobility : เปลี่ยนโฉมการเดินทางในประเทศไทย รวมไปถึงการขนส่ง ให้มีความสะดวกสบาย และลดมลภาวะ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า

และ 3. New Industry : ผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทย ให้เข้าสู่ Industry 4.0 เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม และรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับโรงงานผลิต

สุดท้ายแล้ว ต้องบอกว่า ทั้งหมดนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ของ ปตท. ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของการสร้าง Innovation Ecosystem ในระดับนานาชาติ ผ่านกลยุทธ์ Partnership and Platform ที่เน้นการดำเนินธุรกิจด้วยการสร้างพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจของ ปตท. ให้มีลักษณะเป็นแพลทฟอร์มมากกว่าเป็นแค่ผู้ผลิตสินค้าและจำหน่าย โดยดึงดูดพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อขับเคลื่อนคุณค่าแห่งธุรกิจไปสู่มือผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และที่สำคัญ คือการตอกย้ำการเป็นผู้นำองค์กรด้านนวัตกรรมที่พร้อมจะนำพาประเทศไทยก้าวสู่ระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยไปด้วยในขณะเดียวกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น