“ศักดิ์สยาม” สั่งเดินหน้าแผนลงทุนขยายสนามบินทุกแห่งตามแผนแม้โควิดกระทบอุตฯ การบินหนัก คาดปีนี้มีผู้โดยสารรวม 41 ล้านคนจากปีก่อนมี 165 ล้านคน ด้าน “ถาวร” ชี้ต้องเร่งพัฒนาสนามบินภูมิภาค คาดเสร็จพอดีอุตฯ การบินกลับสู่ปกติปี 66
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมการบินของประเทศไทยในปี 2562 มีจำนวนผู้โดยสารที่ 165 ล้านคน มีปริมาณเที่ยวบินที่ 1.04 ล้านเที่ยวบิน ขณะที่ศักยภาพของสนามบินรองรับได้ที่ 150 ล้านคน ซึ่งปริมาณผู้โดยสารจริงนั้นเกินขีดการรองรับ
ทั้งนี้ หลังเกิดโรคโควิด-19 ส่งผลทำให้การบินในปีนี้ได้รับผลกระทบทั่วโลก ขณะที่คาดว่าจำนวนผู้โดยสารทางอากาศในปีนี้ของประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 41.8 ล้านคน และมีปริมาณเที่ยวบิน 5.5 แสนเที่ยวบินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นโยบายยังคงเป้าหมายแผนพัฒนาขนส่งทางอากาศระยะ 15 ปี (2562-2576) ในการเพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินที่ 1.2 ล้านเที่ยวบิน ซึ่งจะมีผู้โดยสารเข้ามาถึง 240 ล้านคน/ ปี
การพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ยังดำเนินการไปตามแผนแม่บท และนโยบายของรัฐบาล โดย ทอท.เตรียมลงนามสัญญากับผู้รับจ้างโครงการงานจ้างก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วงเงินประมาณ 9,600 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จในปี 2567
ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท ได้เสนอไปยังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาแล้วสำหรับการพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งตามแผนจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2569
โครงการศูนย์ซ่อมเครื่องบินอู่ตะเภา (MRO) ซึ่งจะให้ ทอท.เข้าไปดำเนินการแทน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีการฟื้นฟู ซึ่งเชื่อว่า ทอท.มีศักยภาพที่จะดำเนินการได้
ส่วนสนามบินภูมิภาคในความรับผิดชอบของ ทย.จำนวน 29 แห่ง จะมีการพัฒนาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ในการก่อสร้าง รวมถึงการศึกษาก่อสร้างสนามบินเพิ่มเติม เพื่อขีดความสามารถในการให้บริการและรองรับผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้น
@“ถาวร” ชี้ต้องเร่งขยายสนามบินภูมิภาค คาดปี 66 อุตฯ การบินกลับสู่ปกติ
ด้านนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ยังคงเดินหน้าแผนการก่อสร้างขยายขีดความสามารถของสนามบิน 28 แห่ง เนื่องจากตามที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) คาดว่าโรคโควิดจะยุติในอีก 2-3 ปี หรือในปี 2565-2566 สถานการณ์โลก การบินการเดินทางต่างๆ จะกลับสู่ภาวะปกติเหมือนปี 2562 และอีก 2 ปีต่อไป หรือปี 2568 ทุกอย่างจะเป็นปกติ.ดังนั้น แผนการก่อสร้างขยายศักยภาพสนามบิน ทย.ทั้งหมดจะแล้วเสร็จพอดีกับที่การบินจะกลับมาเติบโตตามปกติ
ในปี 2564 เสนอของบประมาณที่ 5,800 ล้านบาท โดยมีแผนก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่งพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินบุรีรัมย์ และตรัง เป็นต้น ส่วนการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างศึกษา ได้แก่ มุกดาหาร นครปฐม พัทลุง สตูล บึงกาฬ พะเยา และกาฬสินธุ์ และการใช้ประโยชน์พื้นที่สนามบินตาก หัวหิน เพชรบูรณ์ และนครราชสีมา
อย่างไรก็ตาม ในการขยายหรือก่อสร้างสนามบินใหม่นั้นได้ให้ความสำคัญในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้ง EIA และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (EHIA) ซึ่งได้มอบนโยบายให้ ทย.ดำเนินการตามรายงานที่ได้รับอนุมัติให้ครบถ้วน
“นอกจากการพัฒนากายภาพสนามบินแล้ว การบริการจะต้องสร้างความพึงพอใจแก่ผู้โดยสาร ทั้งความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อระบบขนส่งอื่นๆ ความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล”