ในแต่ละปีการเติบโตของสินค้ากลุ่มเสริมอาหารมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท นับว่าเป็นตลาดที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจ และให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพร่างกายที่ดี อัตราการเติบโตของกลุ่มอาหารเสริมค่อนข้างที่จะสวนทางกับธุรกิจในหลายๆ กลุ่มสินค้าที่อาจมีการชะลอตัวลงไปบ้าง ตามภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจและกำลังซื้อโดยรวมของประเทศ
ขณะที่แนวโน้มภาพรวมของตลาดกลุ่มเสริมอาหารสามารถเติบโตได้มากกว่า 5-10% ต่อปี จากการที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเทรนด์สุขภาพขยายตัวได้ดี (Healthy Trend) ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายและรวดเร็วผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เกิดธุรกิจ สินค้าและบริการต่างๆ เข้ามาเป็นทางเลือกจำนวนมาก เช่น กลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารคลีน อาหารออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ธุรกิจเสริมความงาม หรือแม้แต่เครื่องสำอาง ที่เกิดขึ้นมากมายหลากหลายแบรนด์ในปัจจุบัน
“เฮฟฟีก้า” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จัดจำหน่ายและดูแลโดย บริษัท โรฟีก้า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจรักตัวเอง และต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพและเสริมสร้างการทำงานของตับ
นายชาญชัย อิงเวโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท โรฟีก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทย แนวโน้มของผู้ที่เป็นโรคตับได้กลายเป็นภัยเงียบ อาจแค่แสดงอาการอ่อนเพลีย ท้องอืด นอนไม่หลับ ก่อนลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งตับนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งแต่ละปีมีอัตราการเสียชีวิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาหลักส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เช่น การทำงานหนัก พักผ่อนน้อย รับประทานอาหารไขมันสูง และมีความเครียดสะสม
“เฮฟฟีก้า” จึงอยากเป็นแบรนด์ที่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายหันมารักตัวเอง ให้ความสำคัญต่อการดูแลและใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะตับซึ่งถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญเปรียบเสมือนหัวใจดวงที่ 2 ในระบบกลไกร่างกายเพราะจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังทั่วโลกประมาณ 257 ล้านคน และผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังทั่วโลกประมาณ 71 ล้านคน สำหรับประเทศไทยคาดว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังประมาณ 2.2-3 ล้านคน โดยพบมากในผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
ด้วยอุบัติการณ์เกี่ยวกับโรคตับมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของคนทั่วโลกกว่า 1.3 ล้านคนต่อปี ในวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปีจึงได้ถูกกำหนดให้เป็น “วันตับอักเสบโลก” มุ่งหมายเพิ่มความตระหนักรู้ของไวรัสตับอักเสบ ไขมันพอกตับ การอักเสบของตับอื่นๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ รวมถึงมะเร็งตับซึ่งเป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆ ของกลุ่มโรคมะเร็ง โดยในปี 2020 นี้ องค์การอนามัยโลกได้มีการกำหนดธีม “อนาคตที่ปราศจากโรคตับ” (Hepatitis-free future) เน้นให้ความสำคัญต่อการป้องกันโรคตับอักเสบบีอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
แคมเปญ “เฮฟฟีก้า ชีวิตดีเริ่มต้นได้ที่ตับ” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่มุ่งเน้นให้คนไทยหันมาดูแลรักษาตับกันมากขึ้น เพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงความสำคัญของตับอย่างถูกต้อง