xs
xsm
sm
md
lg

SCC แจง Q2/63 กำไรโต 33% จ่ายปันผลงวดครึ่งปี 5.50 บาท/หุ้น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปูนซิเมนต์ไทยแจงไตรมาส 2/63 กำไร 9,384 ล้านบาท โต 33% จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ แต่งวด 6 เดือนกำไรวูบ 13% จากมาร์จิ้นเคมีภัณฑ์ลดลง พร้องคงเป้าลงทุนปีนี้5.5-6.5 หมื่นล้านบาท อ้อนรัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หลังยอดใช้ปูนดิ่ง บอร์ดบริษัทฯ อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลครึ่งปีแรก 5.50 บาท/หุ้น

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 มีรายได้จากการขาย 96,010 ล้านบาท ลดลง 12% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง และมีกำไรสุทธิ 9,384 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน จากผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักที่ดีขึ้น จากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการจัดการการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 63 บริษัทมีรายได้จากการขาย 201,751 ล้านบาท ลดลง 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง และมีกำไรสำหรับงวด 6 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 16,355 ล้านบาท ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลงในไตรมาส 1/63

วันที่ 30 มิ.ย. 63 บริษัทมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 706,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2562 จำนวน 71,919 ล้านบาท โดยยังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง มีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/63 เท่ากับ 88,628 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 84,333 ล้านบาท

ด้านรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 63 มีมูลค่าการลงทุนเท่ากับ 22,193 ล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนเป็นของธุรกิจเคมิคอล 59% ธุรกิจแพกเกจจิ้ง 19% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 17% และอื่นๆ 5% โดยครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะลงทุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายงบรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนของทั้งปี 63 ที่ตั้งไว้ประมาณ 55,000-65,000 ล้านบาท โดยประมาณ 50% จะเป็นการใช้เพื่อก่อสร้างโครงการปิโตรเคมีที่เวียดนาม


ส่วนการลงทุนขยายกำลังการผลิตและการเข้าซื้อกิจการ(M&A)นั้นจะพิจารณาอย่างรอบคอบโดยจะชะลอการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แต่เน้นการผลิตสินค้าที่เชื่อมโยงกับไปสู่ผู้บริโภคทั้งฟูดส์อีคอมเมิร์ซหรือทางการแพทย์เป็นสำคัญ

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่าความต้องการใช้ซีเมนต์ในครึ่งหลังปีนี้ยังมีความท้าทายค่อนข้างสูงหลังจากครึ่งปีแรกพบว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ติดลบ1%จากผลกระทบโควิด-19จากการชัทดาวน์และทำให้การลงทุนต่างชาติได้ชะลอตัวทำให้การใช้วัสดุก่อสร้างและซีเมนต์ลดลงด้วยโดยครึ่งหลังปีนี้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในกลุ่มที่อยู่อาศัยอาจยังไม่ฟื้นตัวแต่เชื่อว่าโครงการอินฟาร์ฯของภาครัฐยังมีความต่อเนื่องเพราะภาครัฐยังคงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้ความต้องการใช้ปูนในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามบริษัทยังเน้นการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity Management)ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโรงงานทั้งในไทยและอาเซียนให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพส่วนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)ของบริษัทเอสซีจีแพคเกจจิ้งจำกัด (มหาชน)หรือSCGPคำขอได้รับอนุมัติจากสำนักงานก.ล.ต.เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ภายนอกต่างๆเช่นแนวโน้มเศรษฐกิจภาวะตลาดเงินตลาดทุนรวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 63 ในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,600 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 ส.ค. 63 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 13 ส.ค. 63 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 14 ส.ค. 63


กำลังโหลดความคิดเห็น