GPSC ยันยอดขายไฟฟ้าช่วงครึ่งปีแรกกระทบน้อยจากผลกระทบโควิด-19 เหตุพบว่าบางอุตสาหกรรมยอดการใช้ไฟยังสูง จับตาครึ่งปีหลัง หวั่นเกิดโควิดรอบ 2 หรือไม่ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า มั่นใจโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ Semi Solid เริ่มเดินเครื่อง ธ.ค.นี้
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายไฟฟ้าของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ปรับลดลงไม่มาก แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/2563 จะได้รับผลกระทบจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงจากการล็อกดาวน์ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่วนครึ่งปีหลังยังคงต้องจับตาว่าจะเกิดโควิดรอบ 2 หรือไม่เพราะจะมีผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินได้ว่ายอดการขายไฟฟ้าในครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง
ที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมบางกลุ่มมีความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง โดยเฉพาะเขตประกอบการอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ที่มีอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ ที่เห็นได้ชัดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง แต่ในกลุ่มผู้ผลิตพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง พบว่าความต้องการใช้ไม่ได้ลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้มีความต้องการใช้ไฟฟ้าในส่วนนี้เพิ่มขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ Semi Solid ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มั่นใจว่าในช่วงธันวาคมนี้จะสามารถผลิตแบตเตอรี่ออกมาได้
ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ Semi Solid กับทางบริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด (Thai Takasago Co., Ltd.) ผู้รับเหมาก่อสร้างโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่จากประเทศญี่ปุ่น มูลค่าสัญญา 295 ล้านบาท เมื่อรวมกับการลงทุนอื่นๆ โครงการนี้จะมีมูลค่าโครงการกว่า 1,100 ล้านบาท โรงงานอยู่ในนิคมฯ มาบตาพุด จังหวัดระยอง นับเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งแรกของประเทศไทยที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Semi Solid ของบริษัท 24M Technologies จากสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายในประเทศและภูมิภาค โดยโรงงานต้นแบบจะเปิดดำเนินการผลิตภายในเดือนธันวาคม 2563 ระยะแรกจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 30 เมกะวัตต์ชั่วโมง และปีหน้าบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 100 เมกะวัตต์ชั่วโมง
วันนี้ (20 ก.ค.) GPSC ประกาศผลการคัดเลือกโครงงานเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ GPSC Young Social Innovator 2019 ภายใต้แนวคิด “พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและอาชีวศึกษา (ปวช.) หรือเทียบเท่า ที่เข้ารอบ 5 โครงงานสุดท้าย ซึ่งจะได้รับประกาศนียบัตรและทุนการศึกษา รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำไปสู่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจดสิทธิบัตรและพัฒนาผลงานในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการ GPSC Young Social Innovator 2019 ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Better life battery โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จากผลงาน การพัฒนาเเบตเตอรี่โดยใช้ถ่านกัมมันต์ที่ถูกฉายรังสี ผลิตจากข้าวเหนียว ซึ่งผู้ที่ชนะเลิศได้รับโล่รางวัล และทุนการศึกษาจำนวน 50,000 บาท ทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมต้นกล้าเปลี่ยนโลก โรงเรียนปราจีนกัลยาณี จากผลงาน แคปซูลเก็บน้ำใต้ดินให้กับต้นกล้า ได้รับโล่รางวัล และทุนการศึกษาจำนวน 30,000 บาท ทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Fruit Guard โรงเรียนพนมสารคาม พนมอดุลวิทยา จากผลงาน ปลอกเทียมห่อผลไม้ ได้รับโล่รางวัล และทุนการศึกษาจำนวน 20,000 บาท