แหล่งข่าวจากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้ทยอยลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพในต่างประเทศ พบว่ามีบางโครงการเกี่ยวกับธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่สามารถต่อยอดพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ โดยบริษัทได้มีการเจรจาเพื่อให้มาลงทุนตั้งโรงงานผลิตในไทย คาดว่าจะเปิดตัวการลงทุนดังกล่าวได้ในไตรมาส 4 ปีนี้
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเป็นการนำพืชผลการเกษตรมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้เทคโนโลยี “Synthetic Biology” หรือ SynBio ที่เป็น Disruptive Technology ที่มีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมหลายๆ อุตสาหกรรม เช่น อาหาร การเกษตร พลังงาน และการแพทย์ในอนาคต ซึ่งบางจากมีแผนลงทุนตั้งฮับอุตสาหกรรมชีวภาพด้วย
โครงการดังกล่าวคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีในการดำเนินการก่อสร้างและผลิตเชิงพาณิชย์ได้ ควบคู่กับการหาตลาด โดยจะมีพันธมิตรร่วมลงทุนด้วย ซึ่งบางจากฯ จะให้บริษัทลูก คือ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ลงทุน โดยแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งมาจากการนำบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในปลายปีนี้ และซื้อขายหุ้นได้ในกลางปี 2564
ก่อนหน้านี้ บางจากได้คัดเลือกธุรกิจสตาร์ทอัพในสหรัฐฯ โดยเน้นธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น บริษัทโบนูเม้าส์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญผลิตน้ำตาลเพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบ พืชในกลุ่มที่มีปริมาณแป้งสูง, บริษัท เจลทอร์ ที่มีเทคโนโลยีชีวภาพสังเคราะห์คอลลาเจน เน้นการผลิตคอลลาเจนใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ ที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าที่ขายกันอยู่ทั่วไป เช่น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
บริษัท เอนเนเวท เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตลิเทียมแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้สามารถรองรับการชาร์จพลังงานได้รวดเร็วขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับการชาร์จทั่วๆ ไป ซึ่งในอนาคตสามารถต่อยอดเทคโนโลยีให้เป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ที่ชาร์จได้รวดเร็วเทียบเท่ากับการเติมน้ำมัน และสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่ และบริษัท เซ็มทีฟ ดำเนินธุรกิจด้านกังหันลมผลิตไฟฟ้า เป็นต้น