นายสมัคร สมัครคามัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โซนิควิชั่น กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดโฮมเธียเตอร์เครื่องเสียงภายในบ้านระดับกลาง-บน หรือมีราคาตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป มีมูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมาโต 5% แต่ปี 2563 นี้จากการแข่งขันด้านราคาช่วงโควิด-19 แต่ช่องทางออนไลน์โตขึ้น ทั้งปีจึงคาดการณ์ได้ยากว่าจะโตขึ้นหรือไม่
แต่ในส่วนโซนิคฯ เนื่องจากเป็นผู้เล่นท็อปทรีในตลาดนี้ด้วยการนำเข้าแบรนด์เครื่องเสียงภายในบ้านชั้นนำจากต่างประเทศเข้ามากว่า 8 แบรนด์ พบว่ายอดขายช่วงครึ่งปีแรกยังเติบโตได้ดี ทั้งปียังมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ 5-10% ตามแผน
ด้าน ดร.พีรวัฒน์ ชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด กล่าวต่อว่า เดิมกลุ่มเครื่องเสียงภายในบ้านแบรนด์ยามาฮ่า ปีนี้ตั้งเป้าโต 5% แต่จากสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์โควิด-19 มีทั้งผลบวกและผลลบ เช่น ยอดขายออนไลน์สูงขึ้น ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่อยู่บ้านมากขึ้น เรียนรู้และเข้าถึงการรับชมผ่านสตรีมมิ่ง เห็นได้จากยอดสมาชิกเน็ตฟลิกซ์ที่โตขึ้น ส่งผลให้ยอดขายยามาฮ่าโตขึ้น ซึ่งแบรนด์มีความสำคัญอย่างมากในสถานการณ์ที่ผู้บริโภคไม่สามารถออกไปสัมผัสหรือซื้อหาได้ตามห้างร้านในช่วงที่ปิดให้บริการลง
ทางยามาฮ่ามองเห็นโอกาส จึงได้ร่วมกับทางโซนิควิชั่น กรุ๊ป ต่อยอดขยายช่องทางการจัดจำหน่ายกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงบ้าน และโฮม ออดิโอ โซลูชัน เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งและขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ไปยังช่องทางโมเดิร์นเทรด ดีลเลอร์ และช่องทางออนไลน์ ในเครือโซนิควิชั่น กรุ๊ป ทั่วประเทศ ที่มีมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ผสานรวมกับความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเซอร์ราวนด์ เอไอ และมิวสิก แคลช ของสยามดนตรียามาฮ่า รวมถึงแผนการเปิดตัวเครื่องเสียงรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เชื่อว่าในปีนี้มองว่ายอดขายกลุ่มเครื่องเสียงภายในบ้านจะทำรายได้ที่ 10% ของรายได้รวมยามาฮ่าทั้งหมดที่ 1,000 ล้านบาท ที่ตั้งเป้าปีนี้โตขึ้นอีก 10% จากปัจจุบันยามาฮ่ามีรายได้หลักจากกลุ่ม MI 50% Audio&PA 30% มิวสิกเอดูเคชันและบริการอีก 20%
นายสมัครกล่าวเสริมว่า ปัจจุบันเครื่องเสียงภายในบ้านแบรนด์ยามาฮ่าอยู่ในกลุ่มท็อป 3 ของตลาด การที่โซนิคเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ตั้งเป้าภายในปี 2564 จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 3% และเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเครื่องเสียงภายในบ้านให้ได้
