xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด”-“สนธิรัตน์” ร่วมถกพลังงานสร้างชาติพรุ่งนี้ กระตุ้น ศก.ระดับแสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สมคิด” ร่วม “สนธิรัตน์” เตรียมประชุมพลังงานสร้างชาติวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) งัดแผนระยะสั้น 3-6 เดือนด้านพลังงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก คาดเม็ดเงินสะพัดระดับแสนล้านบาท ทั้งโรงไฟฟ้าชุมชน มาตรการลดค่าครองชีพ ขณะที่ราคาน้ำมันตลาดโลกแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ว่า วันที่ 25 มิ.ย.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมพลังงานสร้างชาติ ร่วมกับคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัดเพื่อที่จะสรุปแผนงานในการใช้พลังงานเพื่อการลดค่าครองชีพและสร้างรายได้เพิ่มให้แก่ประชาชน ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่าระดับแสนล้านบาทที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

“สำหรับแผนงานดังกล่าวจะเป็นระยะสั้น 3-6 เดือนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเบื้องต้นในขณะนี้ อาทิ โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ที่คาดว่าจะสามารถนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าปรับปรุงครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 63 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำหนังสือเวียนให้หน่วยงานต่างๆ รับทราบ จากนั้นเมื่อเข้า ครม.ก็จะดำเนินการเปิดรับซื้อไฟฟ้าระยะแรก 100 เมกะวัตต์ (ควิกวิน) ได้ นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก มิติด้านประชาชนในการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้จากพลังงานให้แก่ภาคประชาชน เป็นต้น” นายสนธิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้มีมาตรการต่อเนื่องในการดูแลค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ที่ผ่านทั้งการลดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดูแลระดับราคาน้ำมัน การลดราคาหน้าโรงกลั่น รวมถึงล่าสุด กบน.ครั้งนี้ยังเห็นชอบตามแนวทางคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ขยายเวลาตรึงราคาแอลพีจีถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ที่ 318 บาทต่อถัง ตั้งแต่ 24 มิ.ย.-30 ก.ย. 63 เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนมาตรการลดอัตราค่าไฟฟ้า 3 เดือนให้แก่ประชาชนทั่วไปที่จะสิ้นสุด มิ.ย.นี้จะไม่มีการต่ออายุมาตรการดังกล่าว เนื่องจากนโยบายดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือในช่วงการทำงานอยู่บ้าน (WFH) แต่ขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้คลี่คลายแต่อาจจะหามาตรการเพิ่มเติมในการดูแลภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะเกษตรกร เป็นต้น

นายสนธิรัตน์ยังกล่าวถึงแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกว่า การประชุม กบน.ครั้งนี้ทางทีม บมจ.ปตท.ได้มาให้ข้อมูล ซึ่งพบว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบตลาดโลกเริ่มปรับตัวสูงหลังโควิด-19 ในหลายประเทศคลี่คลายโดยล่าสุด 22 มิ.ย. ราคากลับมาเฉลี่ยที่ 42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเมื่อ 23 เม.ย.เป็นราคาต่ำสุดอยู่ที่ 19.46 เหรียญต่อบาร์เรล ดังนั้นจึงประมาณการกรอบราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ยจนถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ราว 40-50 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาแอลพีจีตลาดโลกจาก เม.ย. 215 เหรียญต่อตัน มาอยู่ที่ 340 เหรียญต่อตันในเดือน มิ.ย. และคาดว่าจะอยู่ในกรอบเกิน 400 เหรียญต่อตันในช่วงสิ้นปีนี้ โดยจะทยอยขึ้นในช่วงสิ้นปีตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น