ผู้จัดการรายวัน 360 - สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน พร้อมเปิดให้บริการ 20 มิถุนายนนี้ ชูต้นแบบโมเดลความปลอดภัยระดับโลก เป็นสวนน้ำแห่งแรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ย้ำโซเชียลดิสแทนซิ่งจำกัด 600 คน พร้อม real time tracking ผ่านเทคโนโลยี RFID งัดแผนการตลาดเที่ยวสวนน้ำแบบส่วนตัว
นายนฐา ชมเสวี ผู้จัดการทั่วไป สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล กล่าวว่า ในขณะนี้จากสถานการณ์ และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลในปัจจุบันนั้นเริ่มมีการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมขึ้น จึงเริ่มเป็นสัญญาณอันดีที่ธุรกิจสวนน้ำจะได้รับการปลดล็อกในลำดับต่อไป แต่ถึงแม้ว่าธุรกิจจะกลับมาเปิดบริการได้ตามปกติ แต่เนื่องจากความต้องการ และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเพราะยังคงความกังวลเรื่องไวรัสโควิด-19 อยู่
สิ่งต่างๆ เหล่านี้นำไปสู่การปรับตัวไปเป็น “New Normal” ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายที่เกิดขึ้นในการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการเหมือนเดิม ซึ่งทางสวนน้ำฯ มีความมั่นใจในจุดนี้โดยเฉพาะเรื่องโซเชียลดิสเทนซิ่ง ด้วยจุดแข็งด้านขนาดของพื้นที่ถึง 20 ไร่ กับการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้ให้ไม่เกิน 600 คน จึงทำให้จัดการเรื่องความแอดอัดได้อย่างไม่น่ากังวล ตลอดจนการจำกัดจำนวนคนในการลงสระว่ายน้ำในแต่ละโซนด้วย
อีกทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยี RFID ซึ่งปกติทางสวนน้ำฯ ได้มีการใช้งานอยู่แล้วในการใช้เข้า-ออกสวนน้ำฯ และใช้ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในสวนน้ำฯ แต่ในช่วงสถานการณ์นี้ก็จะมีการเพิ่มฟังก์ชัน Tracking เข้าไป เริ่มจากบันทึกข้อมูลลูกค้าตั้งแต่เข้าสวนน้ำ-ออกสวนน้ำ และติดตามว่าลูกค้าไปใช้บริการเครื่องเล่นใดในสวนน้ำบ้างฯ เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้
นอกจากนี้เรายังเป็นสวนน้ำแห่งแรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อันเป็นการตอกย้ำการเป็นสวนน้ำที่ได้มาตรฐานอีกขั้นหนึ่ง และมีประสบการณ์ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดขององค์การต่างๆ จากทางภาครัฐบาลอย่างเคร่งครัดจนได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว
ขณะนี้สวนน้ำฯ ได้เตรียมความพร้อมสร้างความปลอดภัยและมั่นใจให้แก่ลูกค้า ด้วยมาตรการความปลอดภัยและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยึดตามข้อกำหนดมาตรฐานระดับโลกจากสมาคมสวนสนุกนานาชาติ (IAAPA : The International Association of Amusement Parks) และล้อไปตามโมเดล 5 แกนหลัก “SSHBT” ของกลุ่มบริษัทพราว ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการบริหารสวนน้ำฯ อันอิงไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อยกระดับความปลอดภัย และเป็นแนวทางในการปฏิบัติทั้งตัวสถานที่ พนักงาน และลูกค้า
สำหรับโมเดล 5 แกนหลัก ประกอบไปด้วย
1. Screening การคัดกรองอย่างเข้มงวด เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าใช้บริการและพนักงาน โดยพยาบาลวิชาชีพ
2. Social Distancing เว้นระยะห่างทางสังคม แต่ยังคงความสนุกอย่างเต็มที่ เช่น ด้วยจุดแข็งของสวนน้ำที่กว้างถึง 20 ไร่ โดยจำกัดปริมาณลูกค้าเข้าพื้นที่ได้ 600 คนต่อรอบการเข้าใช้บริการ และยังจำกัดจำนวนคนในการลงสระว่ายน้ำแต่ละโซนด้วย, ยืดระยะเวลาการปล่อยตัวลูกค้าจากเครื่องเล่น เพื่อลดความแออัดภายในสระน้ำ, พนักงานยืนระยะห่างจากลูกค้า 1.5 เมตร, การจัดโต๊ะเก้าอี้
3. Health Monitoring การติดตามเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพ โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การใช้เทคโนโลยี RFID ในการบันทึกข้อมูลเข้า-ออก การใช้บริการสวนน้ำฯ ทำให้สามารถทราบจำนวนคนที่ใช้บริการในสวนน้ำฯ แบบ real time และติดตามได้ว่าลูกค้าไปใช้บริการจุดใดบ้างในสวนน้ำฯ ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ฯลฯ
4. Be Hygienic คุมเข้มการดูแลรักษาความสะอาดที่เหนือกว่า เช่น ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมทุก 1 ชั่วโมง, ทำความสะอาดระบบกรองน้ำทุกวันหลังสวนน้ำปิดทำการ, ตรวจสอบค่าคลอรีนทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อคงค่ามาตรฐานตามองค์การอนามัยโลกในระดับที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้, ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยระบบไอน้ำในพื้นที่ให้บริการเครื่องเล่น ล็อกเกอร์ ห้องอาบน้ำและห้องน้ำ พิ้นที่ให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ทุกสัปดาห์, ทำความสะอาดห่วงยางและอุปกรณ์ชูชีพอย่างสม่ำเสมอ และจัดให้มีเจ้าหน้าที่เช็ดอุปกรณ์จับ (holder) ก่อนให้ลูกค้าจับ, มีการอบฆ่าเชื้อผ้าเช็ดตัว, อบฆ่าเชื้อภาชนะและอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหารด้วยรังสี UV และบรรจุช้อน ส้อม ใส่ถุงพลาสติกที่ผ่านการฆ่าเชื้อเป็นชุดส่วนตัว ฯลฯ
5. Touchless Experience ลดการสัมผัส มีการนำดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาร่วมใช้ในการบริการ สามารถชำระเงินโดยผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น Mobile Banking, AliPay, TrueWallet เป็นต้น
ทั้งนี้ มาตรการ 5 ข้อดังกล่าวแบ่งย่อยออกเป็นอีก 70 ข้อเพื่อความรัดกุมแบบ 360 องศา นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทางสวนน้ำยังได้เตรียมมาตรการความปลอดภัยเชิงรุก ได้แก่ จัดทีม Clean Team ตรวจสอบภายในในการปฏิบัติตัวตามหลัก 5 ข้อดังกล่าวตลอดทั้งวัน เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงการให้บริการให้สอดคล้องตามนโยบายของรัฐอย่างเคร่งครัด, มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้าตรวจสอบพื้นที่สวนน้ำในระหว่างวัน เพื่อสังเกตลูกค้าและพนักงานที่อาจมีอาการต้องสงสัย พร้อมประสานงานกับโรงพยาบาลหัวหินในการส่งตัวกรณีพบผู้น่าสงสัย
ประกอบกับการเตรียมสถานที่ เช่น การควบคุมการระบายอากาศในพื้นที่ โดยปรับเวลาการเปิดให้บริการเป็น 11.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงระหว่างวันที่มีแสงแดดธรรมชาติในพื้นที่โล่ง มีอัตราการหมุนเวียนของอากาศ (ACH) มากกว่า 10 เท่าต่อชั่วโมง, งดการใช้เครื่องปรับอากาศในพื้นที่ให้บริการ, การจัดฝึกอบรมและให้ความรู้พนักงาน และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ในเรื่องของการเฝ้าระวัง การป้องกันการติดเชื้อของโรคโควิด-19 การเว้นระยะห่างทางสังคม และการให้บริการแบบ New Normal ตามคู่มือเตรียมความพร้อมของโครงการ “Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA)” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว โดยทางสวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล เป็นสวนน้ำแห่งแรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA นี้
ในขณะเดียวกัน นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการปรับตัวในเรื่องของการท่องเที่ยวมากขึ้น คนจะให้ความสำคัญต่อเรื่องของสุขอนามัย ความสะอาด ความปลอดภัย ดังนั้นผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัวเพราะถ้าไม่ปรับตัวจะอยู่ยาก ต่อจากนี้ไปทุกคนจะมองหาว่าสถานที่ท่องเที่ยว, โรงแรมที่จะไปพักหรือร้านอาหารที่จะไป มีมาตรการในการรักษาเรื่องของสุขอนามัยและความปลอดภัยอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่การท่องเที่ยวของไทย โดยจัดทำโครงการ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมมือกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. และกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ SHA จะเป็นมาตรฐานและคุณภาพที่ช่วยเข้ามาสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาเที่ยวได้อย่างมั่นใจ ในโอกาสนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ทางสวนน้ำฯ ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว และผ่านเกณฑ์ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสวนน้ำฯ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเป็นสวนน้ำแห่งแรกที่ได้รับตราสัญลักษณ์นี้ ซึ่งทางเราคาดว่าเมื่อมีการประชาสัมพันธ์ออกไปจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้จังหวัดกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
นายนฐากล่าวเพิ่มเติมว่า การกลับมาเปิดให้บริการครั้งนี้ถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยให้คึกคักอีกครั้ง ขานรับนโยบายการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแคมเปญ “ไทยเที่ยวไทยให้วิบวับ” โดยตั้งเป้าลูกค้ากลุ่มแรกเป็นชาวไทย เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะยังติดขัดเรื่องการเดินทาง ดังนั้นเราจึงกระตุ้นไทยเที่ยวไทยก่อน นอกจากนี้ หัวหินยังติดอันดับที่ 2 ใน 10 อันดับ Wish-list จุดหมายปลายทางยอดนิยมในประเทศของคนไทยหลังได้รับการปลดล็อก (จากผลสำรวจ booking.com) โดยทางสวนน้ำฯ ได้มีการทำแพกเกจเอ็กซ์คลูซีฟ ตามเทรนด์ New Normal เข้าสวนน้ำแบบกลุ่มส่วนตัว พร้อมอัดโปรโมชันเพื่อดึงลูกค้า ปลุกกำลังซื้อให้กลับมา หลังจากนั้นอาจเป็นต่างชาติอย่างประเทศจีน ซึ่งจากผลสำรวจชาวจีนมีความต้องการที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยถึง 70% (จากการสำรวจ “China Thailand Travel Sentiment Survey 2020” โดย C9 Hotelworks และ Delivering Asia Communications)