ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซิซซ์เล่อร์” เปิดเกมรุกหนักหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงรับนิวนอร์มัล เปิดโมเดลทูโกรวดเดียว 7 สาขา พร้อมขยายช่องทาง “คลาวด์คิตเชน” อีก 3 สาขา รองรับดีลิเวอรีในสาขาที่บริการไม่ทั่วถึง
นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ให้บริการร้านอาหาร ภายใต้แบรนด์ “ซิซซ์เล่อร์” กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงพฤษภาคม หรือตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศไทย แนวโน้มการสั่งซื้ออาหารในรูปแบบดีลิเวอรีเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หลังจากรัฐบาลได้ประกาศคลายล็อกดาวน์เฟส 3 โดยร้านอาหารภายในศูนย์การค้าสามารถเปิดให้บริการได้ ภายใต้มาตรการควบคุมสุขลักษณะอย่างเข้มงวด ซิซซ์เล่อร์ได้เดินหน้าพัฒนากลยุทธ์การทำตลาดที่ครอบคลุม ทั้งการให้บริการภายในร้าน ตลอดจนเสริมแกร่งแพลตฟอร์มดีลิเวอรีและแกร็บแอนด์โก ภายใต้แนวคิด “New Sizzler New Normal”
“ธุรกิจร้านอาหารจากนี้คงมีการแข่งขันที่รุนแรงในทุกประการ ทั้งทางด้านดีลิเวอรี นั่งรับประทานในร้าน และการทำโปรโมชัน เพื่อดึงลูกค้าเพราะต้องการสร้างยอดขาย”
ขณะที่แผนการเปิดสาขาใหม่แบบนั่งรับประทานในร้าน ตามแผนเดิมจะเปิด 5 สาขาในปีนี้ คงต้องรอดูสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง ส่วนปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถเปิดบริการได้ครบทุกร้าน จากที่มีอยู่จำนวน 57 สาขา โดยเปิดได้ประมาณ 80% ของจำนวนสาขาทั้งหมด ส่วนใหญ่ที่ยังไม่เปิดตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา ชลบุรี เป็นต้น
นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ “ซิซซ์เล่อร์” กล่าวว่า ซิซซ์เล่อร์ยังเตรียมแผนขยาย “Sizzler Cloud Kitchen” โมเดลครัวกลางรูปแบบใหม่ให้บริการที่สะดวก ใกล้บ้าน จากการนำเอาคอนเซ็ปต์ Cloud มาประยุกต์ใช้กับร้านอาหาร เกิดเป็น Sizzler Cloud Kitchen โดยการยกครัวของซิซซ์เล่อร์มาไว้ในร้านดีลิเวอรีของบริษัทในเครือ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าได้ทั้งในรูปแบบดีลิเวอรี และสั่งกลับบ้าน (takeaway)
แพลตฟอร์ม Sizzler Cloud Kitchen เปิดแล้ว 3 สาขาที่ครัวเกษตร เปิดเมื่อเดือนเมษายน, ประชาอุทิศ 90 เปิดเดือนที่แล้ว และดอนเมืองเปิดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ในร้านเดอะพิซซ่าคอมปะนีทั้ง 3 แห่ง และสั่งอาหารได้ถึง 3 แบรนด์ภายในออเดอร์เดียว ทั้งซิซซ์เล่อร์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี และบอนชอน จะช่วยให้ลูกค้าที่สั่งอาหารแบบดีลิเวอรีได้รับอาหารรวดเร็วขึ้น ระยะ 3 กิโลเมตร เพื่อรองรับพื้นที่ที่บางสาขาไม่สามารถบริการได้เพราะอยู่นอกเหนือพื้นที่การบริการ
นอกจากนั้น หลังจากที่ซิซซ์เล่อร์ได้เปิดตัวโมเดล Sizzler to Go สาขาแรกที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้บริโภคคนรักสุขภาพ ซิซซ์เล่อร์ยังขยายอีก 7 สาขา แบ่งเป็น 4 สาขาในรูปแบบ Standalone kiosk ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก ช่องนนทรี สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 ดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และรูปแบบแกร็บแอนด์โกที่หน้าร้านซิซซ์เล่อร์ ที่เซ็นทรัล เวสต์เกต เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 7 แห่งจะพร้อมให้บริการในไตรมาสที่ 2
นอกจากนี้ Sizzler to Go ทุกสาขามีเมนูใหม่ คือ เมนูแรป 3 รสชาติ ได้แก่ แรปไก่ย่างซอสศรีราชา แรปไส้กรอกวีแกน และแรปกุ้งย่างมะม่วงน้ำปลาหวาน เมนูซุป 2 รสชาติ ได้แก่ ซุปเห็ด และซุปหอยลาย เมนูโยเกิร์ต 2 สูตรเพื่อสุขภาพ ได้แก่ เวรีเบอร์รี กราโนลา โยเกิร์ต และบานานาคาราเมล กราโนลา โยเกิร์ต นอกจากนี้ ยังมีเมนูเดิมที่เพิ่มรสชาติทางเลือกใหม่ๆ ได้แก่ เมนูน้ำผลไม้สกัดเย็น 100% 2 สูตรใหม่ ได้แก่ สูตร Antioxidant shot และสูตร Immune Booster และเมนูสลัด 2 รสชาติ ได้แก่ สลัดทูน่า และสลัดไก่
ปัจจุบันยอดขายในส่วนของดีลิเวอรีมีสัดส่วน 10% เพิ่มจากเดิมที่มี 5% ในช่วงก่อนโควิดระบาด ตั้งเป้าหมายอีก 2 ปีจะมีสัดส่วนรายได้เป็น 30%