ผู้จัดการรายวัน 360 - “VGI” ฝ่าวิกฤต COVID-19 โชว์ผลการดำเนินงานปี 2562/63 โกยรายได้รวม 4,000 ล้านบาท ทุบสถิติกำไรสูงสุด 1,424 ล้านบาท เผยธุรกิจใหม่ VGI Digital Lab ตัวโดดเด่นเกินเป้าหมาย ผลักดันการเติบโตในส่วนบริการด้านดิจิทัลสูงถึง 117.5%
นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงประเภทการลงทุนใน MACO จากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2563 ดังนั้นรายได้จากสื่อโฆษณากลางแจ้งที่ MACO ทำการบริหารโดยตรง และรายได้จากกลุ่มทรานซ์.แอดที่บันทึกภายใต้ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลในปี 2561/62 จะถูกปรับปรุงออกจากงบกำไรขาดทุน โดยในอนาคตบริษัทฯ จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากการลงทุนจาก MACO เท่านั้น
สำหรับผลการดำเนินงานของธุรกิจสื่อโฆษณามีรายได้ลดลง 7.6% YoY คิดเป็น 71.2% ของรายได้รวมหรือ 2,848 ล้านบาท เพราะการปรับปรุงสื่อโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นแบบดิจิทัล และการใช้สื่อน้อยลง การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 63 ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสื่อโฆษณาจากการที่หลายๆ บริษัทหันมาพิจารณาชะลอการใช้งบโฆษณามากขึ้น ส่วนธุรกิจบริการด้านดิจิทัล ทำรายได้ 28.8% ของรายได้ทั้งหมด หรือคิดเป็น 1,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ภาพรวมการเติบโตมาจากการรับรู้รายได้จากโฆษณาออนไลน์ที่บริหารโดย VGI Digital Lab ซึ่งเป็นผู้ให้บริการออนไลน์เอเยนซี ในช่วงปีแรกนี้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 150 ล้านบาท
ทิศทางดำเนินงานและพัฒนาการสำคัญของกลุ่มบริษัท
1. ธุรกิจสื่อโฆษณา ได้ตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ ‘VGI Digital Lab’ บริการด้านการตลาดออนไลน์ และร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ให้บริการการตลาดแบบออนไลน์และผู้นำด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศจีนนอกจากนี้ ภายหลังจากการเข้าลงทุนใน PlanB ในปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวแพกเกจสื่อโฆษณาใหม่รวมหน้าจอสื่อโฆษณาดิจิทัลของทั้ง VGI PlanB และ MACO รวมถึงการตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคและ O2O โซลูชันส์
ทางด้านธุรกิจบริการชำระเงิน ได้จับมือกับกลุ่มสหพัฒน์ ผู้นำด้านการจัดหาสินค้าอุปโภคและบริโภค เปิดให้บริการร้านค้าลอว์สัน 108 บน 12 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมเปิดช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรแรบบิท และแรบบิท ไลน์ เพย์ โดยบัตรแรบบิทมีผู้ใช้จำนวน 13 ล้านใบ และผู้ใช้บริการแรบบิท ไลน์ เพย์ อยู่ที่ 7.3 ล้านราย
สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ จากความร่วมมือกับ Kerry เช่น การให้บริการส่งสินค้าตัวอย่างและการให้บริการโฆษณาผ่าน Parcel Sticker กว่า 5-6 แสนชิ้น และบริการโฆษณาบนรถขนส่งพัสดุของ Kerry จำนวนกว่า 400 คัน รวมถึงขยายจุดให้บริการจัดส่งพัสดุบน 4 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส
สำหรับปี 2563/64 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อทุกหน่วยธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงได้รับผลบวกจากความต้องการของนักโฆษณาที่หันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการผ่านตลาดอี-คอมเมิร์ซที่ส่งผลดีต่อทุกหน่วยธุรกิจ และยังลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เลื่อนการลงทุนโครงการใหม่ๆ
“เรายังไม่สามารถประเมินได้ว่าการแพร่ระบาดจะยุติลงเมื่อใด อีกทั้งการมีมาตรการใหม่ๆ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถให้แนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนสำหรับปี 2563/64 ได้ แต่บริษัทฯ ยังได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในครึ่งปีหลังของปี 2562/63 ที่ 0.016 บาทต่อหุ้น” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่กล่าว
