กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงนาม MOU กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทำคลังข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นภูมิปัญญาของไทย ป้องกันถูกต่างชาติฉก หรือนำไปใช้ประโยชน์ และไม่แบ่งปันผลประโยชน์ให้กับไทย ด้านกรมการแพทย์แผนไทยฯ เผยล่าสุดได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้ว 36,293 ตำรับ เล็งเดินหน้าตามหาและขึ้นทะเบียนต่อ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการจัดทำคลังข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา และข้อมูลด้านทรัพยากรพันธุกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการแสดงออกทางวัฒนธรรมดั้งเดิม ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ว่าการลงนามในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างเป็นคลังข้อมูลกลางสำหรับใช้ประโยชน์ในการอ้างอิงความเป็นเจ้าของ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นก้าวสำคัญของประเทศในการเดินหน้าเพื่อปกป้องคุ้มครองทรัพยากรพันธุกรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยจากการลักลอบนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมหรือไม่มีการขออนุญาตก่อนเข้าถึง รวมทั้งจะช่วยให้มีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างถูกต้อง หากมีการนำไปใช้
“ไทยเคยเจอปัญหาถูกต่างชาตินำเอาสิ่งที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยไปแอบอ้างเป็นของตนเอง เช่น ฤๅษีดัดตน แต่ไทยก็ได้ไปแสดงความเป็นเจ้าของเพราะมีฐานข้อมูลยืนยัน จนสามารถทวงสิทธิกลับคืนมาได้ หรือแนวโน้มในอนาคตอาจจะมีการนำสมุนไพรของไทยไปจดสิทธิบัตร โดยเฉพาะการทำยาซึ่งการมีฐานข้อมูลก็จะช่วยป้องกันไม่ให้มีการนำไปจดทะเบียนได้ หรือถ้ามีการนำไปใช้ ก็ต้องมีการแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่ไทย”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเชื่อมโยงข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นภูมิปัญญาของไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยร่วมมือกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงข้อมูลพืชและสัตว์ ร่วมมือกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เชื่อมข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นที่จับต้องไม่ได้ และล่าสุดร่วมมือกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เชื่อมข้อมูลตำรับยา ข้อมูลสมุนไพร เพราะเป็นสาขาที่มีมูลค่ามาก ล่อแหลม และมีความเสี่ยงที่จะถูกนำไปใช้ จึงต้องเร่งเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน คาดว่าจะเชื่อมได้เดือน ก.ค.-ส.ค. 2563
สำหรับประโยชน์จากการมีฐานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเป็นส่วนเติมเต็มที่สำคัญของไทยในการปกป้องและคุ้มครองทรัพยากรพันธุกรรม เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชายดำ ขมิ้นชัน กาวเครือ การคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ตำรับยา นวดแผนไทย สมุนไพรโบราณ และการแสดงออกทางวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น โขน การรำไทย มโนราห์ ความเชื่อโบราณ เป็นต้น ได้อย่างรอบด้านและครบวงจร และเป็นการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด จนนำไปสู่การผลักดันให้เกิดการคุ้มครองในต่างประเทศและในระดับระหว่างประเทศต่อไป
นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปัจจุบันกรมฯ ได้ขึ้นทะเบียนภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยจำนวนมาก อย่างตำรับยาต่างๆ ทั้งในยาบัญชีหลักและยาสมุนไพรไทย รวมแล้ว 36,293 ตำรับ เช่น ยาหอมนวโกฐ, ยาธาตุอบเชย, ประสะไพล บรรเทาอาการปวดประจำเดือน, เบญจกูล ตำรับยาประจำธาตุ, ประสะกะเพรา แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ, ยาไฟห้ากอง เป็นต้น เพื่อรักษา ต่อยอด และสืบสานภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งตำรับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วคิดเป็นสัดส่วนเพียง 30-40% ของภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยเท่านั้น โดยกรมฯ ตั้งเป้าที่สืบเสาะหาตำรับยาจากวัดและชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ และขึ้นทะเบียนภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ตำรับ