“ศักดิ์สยาม” เบรกส่ง 4 รายชื่อร่วมทีม “วิษณุ” ด้าน “ถาวร” เผยคลังถือหุ้นใหญ่ไม่ใช่คมนาคม ชี้พ้น รสก.ช่วยคล่องตัว เปิดโอกาสหาผู้บริหารที่เชี่ยวชาญ มืออาชีพ พลิกฟื้นองค์กร
วันนี้ (25 พ.ค.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ หลังจากที่กระทรวงการคลังขายหุ้นจำนวน 3.17% ทำให้เหลือหุ้นในสัดส่วนคิดเป็น 47.8628 นั้น กระทรวงคมนาคมในฐานะผู้กำกับดูแลจะมีส่วนในการจัดทำแผนฟื้นฟู เพื่อยื่นศาลอย่างไร อยู่ที่ผู้ถือหุ้นจะมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการ หากผู้ถือหุ้นไม่มอบหมายก็ถือว่าจบ กระทรวงคมนาคมไม่มีหน้าที่เข้าไปกำกับดูแลการบินไทยเหมือนเดิม ซึ่งขณะนี้ตนไม่ทราบว่า กระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะดำเนินการอย่างไร
นายถาวรกล่าวว่า เมื่อการบินไทยขาดจากการเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงคมนาคมจะต้องอยู่ที่กระทรวงการคลังว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะตอนนี้การบินไทยหลุดจากการกำกับของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วย ดังนั้น จึงอยู่ที่ผู้ถือหุ้น คือกระทรวงการคลังและการบินไทยเอง ในฐานะเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัทจำกัดที่อยู่ภายใต้กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นผู้ตัดสินใจ
ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานกับกระทรวงการคลังในการขับเคลื่อนการบินไทยต่อไป ส่วนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เรื่องการยื่นศาลฟื้นฟูกิจการนั้น อยู่ที่กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่จะพิจารณา ซึ่งวันที่ 25 พ.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะนัดหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
สำหรับรายชื่อ 4 คนซึ่งมีตนรวมอยู่ด้วย และกระทรวงคมนาคมเตรียมจะเสนอเข้าร่วมกับคณะทำงานชุดของนายวิษณุนั้น ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้โทรศัพท์มาหารือว่ากระทรวงคมนาคมจะถอยออกมาก่อน โดยให้รอดูทางคลังว่าจะดำเนินการหรือจะขอให้คมนาคมเข้าไปช่วยอย่างไร ขณะนี้จึงยังไม่มีการเสนอรายชื่อไป
“กระทรวงคมนาคมไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในการบินไทย การเป็นผู้กำกับดูแลก่อนหน้านี้เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบในด้านที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่ง เว้นเสียแต่ว่าหลังจากนี้กระทรวงการคลังมอบอำนาจให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลการบินไทยต่อไปเท่านั้น” นายถาวรกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแนวทางการลดหุ้นในส่วนของคลัง ทำให้การบินไทยหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจนั้น เป็นเรื่องที่ทราบอยู่แล้วว่าจะพ้นจากการกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมทันที แต่จะมีผลดีต่อการบินไทยที่คล่องตัว และสามารถคัดสรรผู้ที่มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเข้ามาเป็นบอร์ดเป็นผู้บริหารได้ ไม่จำกัดอายุ หากเหมาะสม จะอายุเกิน 60 ปี หรือเป็นต่างชาติก็ได้ เป็นการเปิดโอกาสให้ทำธุรกิจได้เต็มที่