การตลาด - วิว (Viu) เร่งเกมรุกตลาด OTT (Over-the-top) ในไทยเต็มที่ ลุยทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตท้องถิ่นขยายฐานคอนเทนต์ที่หลากหลาย อัดแคมเปญตลาดขยายฐานลูกค้าคนดู ล่าสุดผนึกเอไอเอส เพลย์ปั้น 2 ซีรีส์
ดูเหมือนว่าตั้งแต่ต้นปี 2563 นี้มา วิว (Viu) ผู้ให้บริการระดับแนวหน้าด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT (Over-the-top) ยักษ์ใหญ่ระดับภูมิภาคจากกลุ่มบริษัท PCCW Media (พีซีซีดับเบิลยู มีเดีย) จะมีความเคลื่อนไหวในการรุกตลาด OTT ในประเทศไทยอย่างหนักหน่วงและถี่มากขึ้น เพื่อหวังขยายฐานตลาดคนดูให้มากที่สุด
เพราะหากมองถึงความสำเร็จของวิวในต่างประเทศแล้ว ยิ่งทำให้การบุกตลาดเมืองไทยต้องเข้มข้นขึ้น ด้วยยอดผู้ใช้บริการรายเดือนของ Viu (วิว) พุ่งแตะ 41.4 ล้านคน ในปี 2562 เติบโต 35% เทียบกับปี 2561 จำนวนยอดการรับชมสูงถึงกว่า 5.7 พันล้านครั้ง เติบโต 69% เมื่อเทียบกับปี 2561 การขยายตัวของฐานลูกค้า และการเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น ผลักดันให้รายได้ในกลุ่ม OTT วิดีโอเติบโตถึง 32% ในปี 2562
Viu เป็นผู้ให้บริการระดับแนวหน้าด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT ระดับภูมิภาค ที่ดำเนินการโดย PCCW Media Group ให้บริการใน 16 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย พม่า และกลุ่มตะวันออกกลาง ได้แก่ ประเทศบาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงแอฟริกาใต้ ภายใต้การบริหารของ PCCW Media Group ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 41 ล้านคน
*** จับมือ “เอไอเอส เพลย์” ย้ำโมเดล “วิว ออริจินัล”
ล่าสุดคือการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง เอไอเอส เพลย์ (AIS PLAY) ผู้ให้บริการ Streaming Service Provider โดยความร่วมมือระหว่าง AIS PLAY กับ Viu ในครั้งนี้คือการพัฒนาเนื้อหาซีรีส์ฉบับออริจินัลสำหรับภูมิภาคร่วมกัน ถือเป็นครั้งแรกของเอไอเอส เพลย์ด้วยที่เข้าร่วมกับผู้ให้บริการด้านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบ OTT ระดับภูมิภาคเพื่อพัฒนาคอนเทนต์ให้เข้าถึงผู้ชมในจำนวนมากขึ้น ประเดิม 2 เรื่อง คือ My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100% และ Voice in the Rain ตามโมเดลที่เรียกว่า วิว ออริจินัล (Viu Original)
นายธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการ Viu (วิว) ประเทศไทย เคยกล่าวว่า จากที่เราประสบความสำเร็จในไทยมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี ด้วยการนำซีรีส์ วาไรตีเกาหลี และเอเชียแบบถูกลิขสิทธิ์เข้ามา เรามีความมุ่งมั่นอยู่เสมอว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
ทั้งนี้ วิว และเอไอเอส เพลย์ ได้ร่วมมือกันครั้งแรกปี พ.ศ. 2560 ส่งผลให้ Viu (วิว) เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและยอดสมัครสมาชิกเพิ่มสูงขึ้นถึง 3.6 เท่าในปี 2562 และเดือนมีนาคมที่ผ่านมา วิว และเอไอเอส เพลย์ได้นำเสนอคอนเทนต์สุดพรีเมียมจากภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะจากประเทศเกาหลีใต้มาสู่ผู้ใช้เอไอเอส เพลย์ ซึ่งรวมถึงซีรีส์เกาหลีกระแสดีเรื่องล่าสุดที่สามารถเรียกเรตติ้งในวิวได้สูงที่สุดตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลงานการผลิตจากช่อง JTBC อย่างเรื่อง A World of Married Couple และผลงานระดับออสการ์ของผู้กำกับบอง จุนโฮ (Bong Joon-hoo) อย่างเรื่อง Parasite
นางสาวเฮเลน ซู (Helen Sou) ประธานฝ่ายกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Viu (วิว) กล่าวว่า “ในครั้งนี้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะก้าวต่อไปอีกขั้นในการพัฒนาและผลิตคอนเทนต์เชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเอไอเอส เพลย์ ได้ให้ทีมงานเราผลิตคอนเทนต์ Viu (วิว) และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคเอเชีย”
นายธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท พีซีซีดับเบิลยูโอทีที (ประเทศไทย) กล่าวว่า “นอกเหนือจากการนำเข้าซีรีส์และรายการวาไรตีจากทั่วเอเชียเพื่อให้ผู้ชมชาวไทยได้ติดตามกันแล้ว เรายังมีความมุ่งมั่นในการผลิตซีรีส์ออริจินัลของ Viu (วิว) ที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวในสังคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่ง AIS PLAY (เอไอเอส เพลย์) ถือเป็นพันธมิตรรายแรกที่เราทำงานด้วยตั้งแต่เมื่อครั้งที่ Viu (วิว) เปิดตัวในประเทศไทย ตอนนี้เรากำลังร่วมมือกันพัฒนาเนื้อหาออริจินัลให้เชื่อมโยงกับผู้ชมในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค”
ขณะที่นายอลิสแตร์ เดวิด จอห์นสตั้น กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจพัฒนาธุรกิจใหม่ AIS (เอไอเอส) กล่าวว่า “เอไอเอส เพลย์ ในฐานะผู้นำ Streaming Service Provider ตั้งใจจะสร้างสรรค์วิดีโอคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ถูกใจคนไทย โดยได้รวบรวมคอนเทนต์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ได้รับชมอย่างจุใจ และยังเป็นรายเดียวที่ถ่ายทอดสดทัวร์นาเมนต์อีเวนต์และคอนเสิร์ตดังถึงหน้าจอ โดยครั้งนี้เราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับภูมิภาคอย่าง วิว พัฒนาคอนเทนต์ในรูปแบบของออริจินัลโปรดักชันให้ผู้ชมชาวไทย แบบรับชมฟรี ไม่จำกัดเครือข่าย ผ่านแอปฯ AIS PLAY (เอไอเอส เพลย) ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้น”
สำหรับซีรีส์ My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100% เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดีแฟนตาซี ที่สร้างขึ้นจากนวนิยายชื่อดังเรื่อง Make Me xxx บนเว็บไซต์ Fictionlog ที่เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวที่ตกหลุมรักเจ้านายสุดหล่อ เธอได้ปรุงชานมไข่มุกที่มีพลังพิเศษช่วยให้เธอชนะใจเขาได้ แต่เรื่องกลับตาลปัตรเมื่อชายที่เธอไม่ชอบหน้า มาดื่มชาแก้วนี้ไปโดยไม่ตั้งใจก่อนจะตกหลุมรักเธออย่างหัวปักหัวปำ ซึ่งสองหนุ่มที่ตกอยู่ในสถานการณ์รักสามเส้าที่วุ่นวายนี้ นำแสดงโดย นิชคุณ หรเวชกุล นักร้องชาวไทย-อเมริกัน หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบนด์สุดโด่งดังของเกาหลีวง 2PM และ มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ที่โด่งดังเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ชม Gen Z และมิลเลนเนียล โดยซีรีส์เรื่องนี้ผู้ชมยังสามารถรับชมได้ในซับไตเติลภาษาอารบิก, ภาษาอังกฤษ, ภาษาอินโดนีเซีย, ภาษามลายู, ภาษาพม่า และภาษาจีน สำหรับเรื่องราวของซีรีส์ Voice in the Rain นั้นยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาการผลิตและจะมีประกาศอีกครั้งเมื่อเสร็จสมบูรณ์
นี่คือการเคลื่อนทัพที่น่าติดตามล่าสุดของ วิว ในไทย
เพราะการแข่งขันในตลาด OTT ไทยนั้นมีความรุนแรงจากผู้ประกอบการหลายค่าย จะสังเกตได้ว่ากลยุทธ์ที่ผลักดันให้มีการเติบโตทั้งรายได้ จำนวนคนดู นอกจากเรื่องของราคาที่ต้องดึงดูดและโปรโมชันต่างๆ ที่มาเป็นช่วงเวลาล้า ก็คือการผูกพันธมิตรกับผู้ผลิตคอนเทนต์ท้องถิ่นในการสร้างคอนเทนต์เฉพาะขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ในช่องทางของตัวเองเป็นหลัก
คู่แข่งอย่าง ไลน์ทีวี ก็ทำเช่นนี้ และมีพันธมิตรคอนเทนต์มากกว่าร้อยรายแล้ว
ทั้งนี้ Viu Original (วิว ออริจินัล) เป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่มียอดการรับชมสูงสุด โดยกว่า 40% ของผู้ใช้บริการวิวเลือกรับชมรายการจาก Viu Original (วิว ออริจินัล) ซึ่งเป็นรายการที่ผลิตเพื่อออกอากาศในวิวโดยเฉพาะ โดยรายการเหล่านั้นล้วนเป็นรายการที่มียอดวิวสูงติดท็อป 5 ของรายการที่เปิดตัวในปี 2562
3 กลยุทธ์หลักในการพัฒนาวิว ออริจินัล ตามแบบฉบับวิวในต่างประเทศคือ การสร้างคอนเทนต์ของตัวเองผ่านกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม การสร้างคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ อย่างเรื่อง My Bubble Tea ที่เป็นผลงานจากฝั่งไทย ซึ่งเป็นซีรีส์ความรักเกี่ยวกับหนุ่มสาวที่สร้างจากนวนิยายออนไลน์ที่ได้รับความนิยม และการนำคอนเทนต์ที่ได้รับรางวัลระดับโลกมาปรับให้เหมาะต่อผู้ชมแต่ละภูมิภาค อย่างเรื่อง Black จากฝั่งมาเลเซีย
*** อัดแคมเปญดูฟรีช่วง โควิด ขยายฐานคนดู
หากดูความเคลื่อนไหวด้านการตลาดแล้ว ก็ไม่น้อยหน้ากลยุทธ์ที่มาแรงและเป็นกระแสที่ดังมาก คือ แคมเปญ "ฝ่าวิกฤตโควิด-19 มาติด Viu (วิว) ดูซีรีส์ฟรีชิลๆ 14 วัน" แจกโค้ดดูฟรี! ให้คนไทยได้บันเทิงแบบปลอดภัยจาก Covid-19 ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลให้หลายคนเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัย หรือต้องทำงานอยู่ที่บ้าน รวมถึงถ้าใครที่มีภาวะเสี่ยงจนต้องกักตัว 14 วัน โดยการแจกโค้ดฟรีให้แฟนซีรีส์ได้รับชมคอนเทนต์บันเทิงทั่วเอเชียฟรีตลอด 14 วัน ซึ่งสามารถรับโค้ดดูฟรีได้ง่ายๆ เพียงคลิกลิงก์ https://bit.ly/2vBVbXw และมองหาโค้ดลับดูฟรีได้เลย สิ้นสุดวันที่ 11 เมษายน 2563 จำนวนจำกัดวันละ 500 โค้ดเท่านั้น
ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี
กลยุทธ์นี้ถือได้ว่ามาถูกที่ถูกเวลาพอดีในช่วงโควิดระบาด ได้สร้างฐานลูกค้าให้กับวิวได้มากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้เป็นลูกค้าในวันนี้ แต่อย่างน้อยก็เป็นกลุ่มที่จะมีโอกาสเป็นในอนาคต หลังจากที่ได้ทดลองใช้บริการฟรีกับเนื้อหาคอนเทนต์มากมาย
*** ผนึกช่องวัน 31 ขยายฐานคอนเทนต์
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การร่วมมือกับพันธมิตรด้านคอนเทนต์นั้นเมื่อไม่นานมานี้ก็สร้างความน่าสนใจให้กับวงการอีกเช่นกัน เมื่อเปิดตัวเป็นพันธมิตรกับช่องวัน 31 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นายธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการ Viu (วิว) ประเทศไทย กล่าวถึงความร่วมมือกับช่องวัน 31 ว่า ในปีนี้เราได้จับมือกับผู้นำด้านสื่อและธุรกิจบันเทิงของไทยอย่างช่องวัน 31 เพื่อนำเสนอคอนเทนต์บันเทิงยอดนิยมให้แฟนวิวได้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟก่อนใคร ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งกลยุทธ์ในการผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายเติบโตขึ้น เพราะด้วยวิวที่มีฐานผู้รับชมจำนวนมากทั่วภูมิภาค ส่งผลให้ช่องวัน 31 นั้นได้รับโอกาสในการขยายฐานไปสู่ผู้ชมกลุ่มใหม่ให้เติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน โดยนอกจากจะเป็นการนำเสนอผลงานซีรีส์ให้ต่างประเทศได้เห็นถึงฝีมือและศักยภาพการผลิตคอนเทนต์บันเทิงที่ยอดเยี่ยมของช่องวัน 31 แล้ว
การร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการผลักดันให้นักแสดงไทยได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของแบรนด์ Viu (วิว) ที่ต้องการก้าวข้ามพรมแดนทางด้านภาษาและวัฒนธรรมสู่ความเป็นสากล และตั้งมั่นที่จะนำเสนอคอนเทนต์ชั้นเยี่ยมจากอาเซียนสู่สายตาชาวโลก
สำหรับความร่วมมือช่องวัน 31 คือการนำคอนเทนต์บันเทิงยอดนิยมจากช่องวัน 31 และ GMM25 ออกอากาศบนแพลตฟอร์มของ Viu (วิว) ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, พม่า และสิงคโปร์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้เติบโต พร้อมผลักดันคอนเทนต์บันเทิงและนักแสดงไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
อย่างไรก็ตาม วิวจะสามารถออกอากาศคอนเทนต์บันเทิงจากช่องวัน 31 ของไทยได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังการออกอากาศในประเทศไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรับชมย้อนหลังอย่างรวดเร็วสำหรับเหล่าแฟนซีรีส์
ส่วนผู้ชมในมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, พม่า และสิงคโปร์ ก็สามารถรับชมคอนเทนต์บันเทิงจากวิวได้เช่นกัน โดยมีคำบรรยายประกอบหลากหลายภาษา เช่น ภาษามาเลเซีย, ภาษาอินโดนีเซีย, ภาษาพม่า และภาษาอังกฤษ
กล่าวได้ว่า กลยุทธ์นี้จะทำให้แพลตฟอร์มของวิวจะมีคอนเทนต์ที่สดใหม่จากช่องวัน 31 เพิ่มขึ้นกว่า 300 ชั่วโมง จากคลังคอนเทนต์เดิมที่มีอยู่แล้วถึง 812 ชั่วโมงสำหรับผู้ชมชาวไทย
อีกทั้งยังมีการออกอากาศคอนเทนต์บันเทิงจากพันธมิตรเจ้าเก่าอย่าง GMM25 จำนวน 290 ชั่วโมง สำหรับผู้ชม วิว ในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ด้วยคำบรรยายประกอบภาษาอังกฤษสำหรับผู้ชมมาเลเซีย และภาษาอินโดนีเซียสำหรับผู้ชมในประเทศอินโดนีเซีย
ที่สำคัญ ความพิเศษของการร่วมมือกันครั้งนี้ นอกจากผู้ชมของวิวจะได้รับชมคอนเทนต์บันเทิงย้อนหลังจากช่องวัน 31 และ GMM25 ฟรีก่อนใครแล้ว สมาชิก Viu Premium (วิว พรีเมียม) ยังสามารถดาวน์โหลดซีรีส์เรื่องโปรดเก็บไว้รับชมในเวลาว่างได้อีกด้วย
นางสาวเวอร์จิเนีย ลิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอนเทนต์ของ Viu (วิว) กล่าวเสริมว่า “หลังจากที่เราประสบความสำเร็จในการนำเสนอคอนเทนต์บันเทิงจากเกาหลีไปสู่สายตาผู้ชมทั่วภูมิภาคมาแล้ว เราอยากจะส่งคอนเทนต์บันเทิงจากฝั่งไทยที่มองว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอนไปสู่สายตาผู้ชมด้วยเช่นกัน
ด้านนายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่องวัน 31 กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีจุดเด่นที่แข็งแกร่ง ทางเราเองในฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์บันเทิงไทยที่ไม่เคยหยุดการพัฒนา และวิว ในฐานะแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งชั้นนำระดับสากล โดยการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวผู้ชมจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นการขยายฐานคนดูให้กว้างขึ้นไปพร้อมๆ กัน
นายสถาพร พานิชรักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารช่อง GMM25 กล่าวว่า “GMM25 และ Viu (วิว) เป็นพันธมิตรกันมา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่วิวเริ่มเข้ามาในประเทศไทย โดยละครของช่อง GMM25 เช่น เมียน้อย, เกมรักเอาคืน, เนื้อใน, สะใภ้ TKO รวมถึงเรื่องอื่นๆ และคลับฟรายเดย์ เดอะซีรีส์ ล้วนเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชมของ Viu (วิว) โดยต่อจากนี้ความร่วมมือของวิว และ GMM25 จะขยายอาณาเขตมากขึ้นไปครอบคลุมผู้ชมวิวในมาเลเซียและอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน นับเป็นความร่วมมือที่เราจะได้ขยายตลาดคอนเทนต์บันเทิงไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศ”
แน่นอนว่า วิว ยังคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ ในการขยายฐานทางการตลาดและพันธมิตรต่อไป