การตลาด - ค้าปลีกยิ้มรับปลดล็อกเปิดห้างวันแรก 17 พ.ค. บรรยากาศคึกคัก พร้อมกับมาตรการเข้มงวดป้องกันโควิด-19 ชี้ลูกค้าร่วมมือกับมาตรการอย่างดี แต่ละค่ายยันลูกค้ายังไม่ถึง 100% แน่ เพราะโซเชียลดิสแทนซิ่ง สัดส่วนบริการพื้นที่ ต้องรอเวลาอีกระยะ
ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อนุญาตให้ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดให้บริการได้ภายใต้มาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 นั้น บรรยากาศที่ศูนย์การค้าใจกลางกรุงทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และที่ไอคอนสยาม ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีลูกค้าทยอยเข้ามาใช้บริการตลอดทั้งวัน ลูกค้าทุกคนต่างปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบปฏิบัติในการเข้าศูนย์การค้า ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการและพนักงานของศูนย์การค้าได้เตรียมความพร้อมด้านมาตรการสุขอนามัยอย่างเต็มที่ สร้างบรรยากาศแห่งความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้มสยาม
“สยามพิวรรธน์” จัดเต็ม
น.ส.นราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานปฏิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน และไอคอนสยาม กล่าวว่า การเปิดให้บริการศูนย์การค้าตามาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ในวันนี้ (17 พ.ค. 63) เป็นไปด้วยความราบรื่น โดยวันนี้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ หลังจาก ที่ห่างกันไปเป็นระยะเวลากว่า 56 วัน
“วันนี้ (17 พ.ค.) ลูกค้าทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัย เริ่มตั้งแต่การเข้าศูนย์การค้า ซึ่งลูกค้าจะต้องสแกน QR Code “ไทยชนะ” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการของ ศบค. ที่สามารถบันทึกจำนวนผู้เข้าใช้บริการในศูนย์การค้าและร้านค้า เพื่อควบคุมจำนวนให้เป็นไปตามแนวทาง Social Distancing ที่กำหนดให้มีการเว้นระยะห่างและมีพื้นที่ต่อบุคคล 1 ต่อ 5 ตารางเมตร โดยลูกค้าจะต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิโดยใช้เทคโนโลยีทันสมัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ที่มีให้บริการทั่วทั้งศูนย์การค้าอย่างเพียงพอ พร้อมกับการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
โดยศูนย์การค้ามีมาตรการด้านสุขอนามัยครอบคลุม 360 องศา ครอบคลุมใน 3 มิติหลัก คือ 1 มาตรการสุขอนามัยของพนักงานผู้ให้บริการ 2มาตรการความปลอดภัยของศูนย์การค้า และ 3 มาตรการเพื่อความมั่นใจสูงสุดของลูกค้าผู้ใช้บริการ อาทิ การใช้หุ่นยนต์ตรวจความปลอดภัยอัจฉริยะสามารถแจ้งเตือนเมื่อพบผู้ไม่สวมหน้ากาก ตรวจอุณหภูมิผู้ที่เดินผ่าน, การนำเทคโนโลยีทำความสะอาดอย่างล้ำลึกด้วยการใช้รังสี UV-C ฆ่าเชื้อในทุกพื้นที่ทั้งภายในและนอกศูนย์ฯ, การทำความสะอาดระบบปรับอากาศด้วยเครื่องฆ่าเชื้ออบโอโซน และล้างเครื่องส่งลมเย็นในพื้นที่ส่วนกลาง และใช้สารเอ็นไซม์ฉีดเคลือบเพื่อยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์เป็นต้น
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยาม จัดให้มีการคัดกรองอย่างเข้มงวดบริเวณประตูทางเข้าทุกจุด การจัดระเบียบพื้นที่เว้นระยะห่างทางสังคมในทุกพื้นที่อย่างเข้มงวดทั่วทั้งไอคอนสยาม รวมถึง สยาม ทาคาชิมายะ, เดียร์ ทัมมี่, สุขสยาม และร้านค้าพันธมิตรผู้เช่าทั้งหมดที่เปิดให้บริการ นอกจากนี้ ยังจัดพื้นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ อาทิ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมให้ใช้ Cashless Payment
“ซีพีเอ็น” คาดลูกค้ากลับมาช่วงแรก 40%
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ เปิดให้บริการแล้ววันนี้ (17 พ.ค. 63) วันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 11.00-20.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-20.00 น. พร้อมคุมเข้มมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” อย่างต่อเนื่อง รณรงค์ให้ทุกคนมีวินัยในการใช้ชีวิตแบบ New Normal ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสแกนเข้าออกจากศูนย์การค้าด้วยแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” หรือ LINE @centralLife หรือแอปพลิเคชัน The 1 ซีพีเอ็นคาดว่าจะมีปริมาณลูกค้ากลับเข้าศูนย์ฯ ในช่วงแรก 25-40% และเรามั่นใจในมาตรการ Density Control คุมความหนาแน่นของผู้ใช้บริการลงทะเบียนก่อนเข้า และจำกัด 1 คนต่อ 5 ตร.ม. โดยแนะนำให้ลูกค้าใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงภายในศูนย์การค้า
ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้เราต่อสู้กับ COVID-19 จนตอนนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นตัวเลขหลักเดียว และมีตัวเลขเป็น 0 มาแล้วนั้น เพราะ ‘พลังคนไทย’ ที่ร่วมมือกัน และต้องขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ รัฐบาล หน่วยงานต่างๆ และคนไทยที่มีวินัยในการใช้ชีวิต แสดงให้เห็นถึงมาตรฐาน Health Security ในประเทศไทยที่รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้อย่างมีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
สำหรับเซ็นทรัลพัฒนามีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์ตอบรับ New Normal ด้วยมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ในวันนี้ที่ธุรกิจและชีวิตคนไทยกลับมาเดินหน้าต่ออย่างระมัดระวัง จึงได้ดำเนินแผนงานฟื้นฟูประเทศ ‘Reunite Thailand Together’ พลังไทยช่วยไทย ด้วย 3 กลยุทธ์หลักที่เน้นกระตุ้น Localised Economy ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 - Reassure Confidence : เสริมสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตของประชาชน ศูนย์การค้าจึงเป็นมากกว่า Service Provider แต่เป็น Health & Safety Provider ด้วย โดยมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Touchless Lift ลิฟต์ไร้สัมผัสที่เริ่มนำร่องไปแล้วที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสวิลล์, เครื่อง UV-C เช็ดบันไดเลื่อน, ตู้ UV-C ทำความสะอาดถุงสินค้า เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ 2 - Reopen Business: ขับเคลื่อนธุรกิจร่วมกัน รักษาความเติบโตต่อเนื่องไม่เลิกจ้างพนักงาน CPN และลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่องด้วยงบลงทุนกว่า 15,000-20,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงดูแลคู่ค้าร้านค้าเรื่องค่าเช่าต่อเนื่องไปอีก 3-6 เดือนเพื่อช่วยให้กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังวางแผนเสริมความแข็งแกร่งของ Omnichannel เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ใน Retail Ecosystem เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ที่เริ่มเปิดตัวไปแล้วกับบริการ New Normal Lifestyle เช่น One Call x One Click โทร. 0-2021-9999 และ LINE : @CentralLife, บริการ Drive Thru, บริการ Central Eats ร่วมกับ Grab Food เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ 3 - Rebuild Economy: สร้างเศรษฐกิจไทยช่วยไทย ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ตั้งเป้าเปิดพื้นที่ฟรีให้เกษตรกรและเอสเอ็มอีรายย่อยทั่วประเทศ รวมกว่า 40,000 ตร.ม. ต่อเนื่อง 3-6 เดือน ที่ทำแล้วเช่น ‘ตลาดผลไม้รวมใจ’ ที่ช่วยเกษตรกรผลไม้ส่งออกให้มีช่องทางกระจายสินค้า
“ห้างเซ็นทรัล” ปรับเวลาเปิด-ปิด
น.ส.ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล เปิดเผยว่า ห้างเซ็นทรัลได้กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2563 โดยมีความพร้อมในทุกด้านทั้งการบริการ ร้านค้า และที่สำคัญคือ เรื่องของสุขอนามัยและความปลอดภัยจากการป้องกันโรคโควิด-19
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงแรกนี้ปริมาณลูกค้าที่มาเดินเที่ยวห้างอาจจะยังไม่กลับไปเหมือนในอดีตก่อนที่โรคโควิดจะระบาด คาดว่าจะหายไปประมาณ 30-50% เพราะยังคงมีความกังวลในเรื่องของโรคโควิดอยู่บ้าง อีกทั้งยังเป็นผลมาจากมาตรการโซเชียลดิสแทนซิ่งที่ต้องเว้นระยะห่าง หรือสัดส่วนพื้นที่ 1 คนต่อ 5 ตารางเมตร ทำให้ต้องจำกัดลูกค้าเข้าบริการในห้าง แต่ในช่วงที่พีกๆ หรือที่รับได้มากที่สุดเราสามารถรับได้ประมาณ 7,800 คน
ทั้งนี้ ห้างเซ็นทรัลยังได้ปรับเปลี่ยนเวลาการเปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้ จันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่ 11.00-20.00 น. และศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. ได้แก่ สาขา ชิดลม, ลาดพร้าว, บางนา, ปิ่นเกล้า, พระราม 2, พระราม 3, รามอินทรา, เซ็นทรัลเวิลด์, ภูเก็ต, แจ้งวัฒนะ, พัทยา บีช, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่, สมุย, ศาลายา, เวสต์เกต, อีสต์วิลล์ และนครราชสีมา
ส่วนสาขาที่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00-20.00 น. ได้แก่ สาขา หาดใหญ่, กาดสวนแก้ว, สีลม คอมเพล็กซ์, ฟิวเจอร์พาร์ค และป่าตอง
ห้างเซ็นทรัลยังคงตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัย และความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน รวมถึงพนักงานในร้านค้าทุกคนเป็นอันดับแรก ด้วยคอนเซ็ปต์ “ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน” โดยมีข้อกำหนดครอบคลุมใน 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้มด้านสุขอนามัย อันสอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐ โดย 5 มาตรการหลัก คือ 1. “ปลอดภัยสูงสุด” (Central is…Safe), 2. “เคร่งครัด คัดกรอง” (Central is…Screening), 3. “สะอาด ปลอดภัย ไร้กังวล” (Central is…Clean), 4. “เว้นห่าง อย่างห่วงใย” (Central is…Distancing) และ 5. “ลดเสี่ยงจากสัมผัส” (Central is…A Touchless Experience)
*** “เดอะมอลล์” ชี้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า เดอะมอลล์กรุ๊ปมีความพร้อมเต็มที่ในการกลับมาเปิดบริการอีกครั้งวันที่ 17 อย่างไรก็ตามคาดว่าในช่วงแรกที่เปิดบริการ ลูกค้าอาจจะยังไม่กลับมาทั้งหมด 100% แน่นอน ต้องอาศัยเวลาอีกสักระยะที่ปริมาณลูกค้าจะค่อยๆทยอยกลับมาเพิ่มขึ้น คาดว่าอย่างน้อยลูกค้าอาจจะหายไปบ้างประมาณ 30-40% ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการโซเชียลดิสแทนซิ่งของภาครัฐและมาตรการสัดส่วนพื้นที่บริการต่อคนด้วย คือ พื้นที่ 5 ตารางเมตรต่อ 1 คน
ทั้งนี้พฤติกรรมของลูกค้าในช่วงนี้ก็อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น การใช้จ่ายของลูกค้าก็อาจจะน้อยลง และซื้อของเท่าที่จำเป็นก่อนในเวลาจำกัด ยังคงไม่ใช่มาเดินเที่ยวแบบเมื่อก่อน เพราะระยะเวลาในการอยู่ของแต่ละคนก็ถูกจำกัดด้วยเช่นกันประมาณ 2 ชั่วโมง โดยลูกค้าจะมีความแตกต่างกัน 2 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มที่อยากกจะกลับมาเดินทันทีเมื่อห้างเปิดบริการเพราะว่ารอมานาน และไม่ได้ไปเดินพักผ่อนหรือซื้อของที่ไหนมานานเกือบ 2 เดือน และกลุ่มที่ 2 คือ เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รีบร้อนและไม่มาในช่วงเปิดบริการแรกๆเพรามองว่ายังไม่มีความจำเป็น อาจจะ 1- 2 อาทิตย์ค่อยมาเดินเที่ยวก็ได้ เพราะต้องการความปลอดภัยรอให้คนมาเที่ยวในช่วงแรกๆไปก่อนแล้วค่อยมาวันหลังก็ได้
สำหรับมาตรการคุมเข้มโควิด-19 นั้น น.ส.วรลักษณ์กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องยอมรับว่าได้เกิด “NEW NORMAL” หรือ ชีวิตวิถีใหม่ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัย เดอะมอลล์ เองได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้เร่งเดินหน้าคิดค้นและพัฒนามาตรการต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับ NEW NORMAL ประกอบด้วย 5 มาตรการหลัก 34 มาตรการย่อย สำหรับลูกค้า และ 6 มาตรการเสริม 66 มาตรการย่อย สำหรับ 5 กลุ่มธุรกิจ รวม 100 มาตรการ
กลยุทธ์หลักที่เราให้ความสำคัญ คือ มาตรการสร้าง TMG TOUCHLESS SOCIETY หรือสังคมไร้สัมผัส ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ของ TOUCHLESS RETAIL โดยเราพร้อมดูแลความปลอดภัย ให้ลูกค้าได้มั่นใจ ไร้การสัมผัสตลอดการชอปปิ้ง ด้วยมาตรการที่เข้มข้นตั้งแต่เข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า อันได้แก่ TOUCHLESS FACILITIES หรือบริการไร้การสัมผัส, รวมไปถึงมาตรการคัดกรองเข้มงวด (INTENSIVE SCREENING), มาตรการลดความแออัด (PHYSICAL DISTANCING), มาตรการสุขอนามัยเชิงรุก (HYGIENIC CLEANING), มาตรการเฝ้าระวังติดตาม (COMPREHENSIVE INFORMATION TRACKING) ซึ่งแต่ละมาตรการหลักจะมีรายละเอียดย่อยลงไปอีกมาก
ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ รายงานว่า บรรยากาศภายในศูนย์การค้าในการเปิดบริการวันแรก มีการจัดกิจกรรมต้อนรับลูกค้าในการกลับมาใช้บริการในบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด ตอบรับ NEW NORMAL
นอกเหนือไปจากมาตรการทางด้านสุขอนามัยกว่า 100 มาตรการแล้วยังให้ความสำคัญในเรื่องของอากาศภายในอาคารทั้ง 2 แห่ง ต้องสะอาดและปลอดเชื้อ จึงได้ดำเนินการทดสอบระบบปรับอากาศ พร้อมทำความสะอาดแผงคอยล์ AHU และ FCU ทั้งระบบ ครอบคลุมทุกพื้นที่ 100% เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจว่าชอปปิ้งกับเราได้อย่างมีความสุข สะอาด ปลอดเชื้ออย่างแน่นอน
“เอ็มบีเค” เข้มงวดมาตรการ
รายงานบรรยากาศจากศูนย์การค้าในเครือเอ็มบีเค ได้แก่ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พาราไดซ์ พาร์ค พาราไดซ์ เพลส เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ซึ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเป็นวันแรก พบว่ามีลูกค้าจำนวนมากเดินทางมารอที่จะเข้าไปใช้บริการ โดยมีการเว้นระยะห่างทางสังคม เมื่อถึงเวลาเปิดทำการ พนักงานร้านค้าและลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ ทุกคนต้องผ่านการตรวจคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกายและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมสแกนคิวอาร์โค้ด (QR CODE) “ไทยชนะ” เป็นต้น ซึ่งมาตรการต่างๆ เป็นไปตามที่ ศบค.กำหนด
นายสมพล ตรีภพนารถ กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค พร้อมเปิดให้บริการด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ภายใต้ 3 แนวคิดหลัก ได้แก่ คัดกรอง ป้องกัน ปลอดภัย รวมทั้งจำกัดจำนวนคนเข้าศูนย์การค้า ตามอัตราส่วนพื้นที่ใช้สอย 5 ตารางเมตรต่อผู้ใช้บริการ 1 คนเพื่อลดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ โดยใช้วิธีการนับจำนวนผู้ใช้บริการแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบตรวจจับผ่านกล้อง Artificial Intelligence (AI CCTV) ที่ติดตั้งไว้ที่ประตูทางเข้าศูนย์การค้า โดยจะควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการภายในศูนย์ไม่ให้เกิน 28,000 คน จากพื้นที่ 140,000 ตารางเมตรทั้งหมดในศูนย์การค้า เป็นต้น
สำหรับเวลาเปิดทำการของแต่ละศูนย์การค้า ดังนี้ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการเวลา 10.00-20.00 น. ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค และศูนย์การค้าพาราไดซ์ เพลส เปิดให้บริการเวลา 10.30-20.00 น. ศูนย์การค้าเดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 เปิดให้บริการเวลา 07.00-20.00 น.
“เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ยังช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าที่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยงดเก็บค่าเช่าร้านค้าที่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม-31 พฤษภาคม 2563 ให้ส่วนลดค่าเช่าเป็นสัดส่วน 30-50 % มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2563 ให้ร้านค้าหมุนเวียนนำสินค้ามาจำหน่ายในพื้นที่ลานโปรโมชันฟรี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2563 เป็นต้น”
