ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท เผยปฏิบัติการสู้โควิด-19 ลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ค้าปลีกรายแรกของไทย ประกาศล็อคราคาสินค้า 90 วัน และจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าหลายพันรายการ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน – 4 กรกฎาคม 2563 ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ ออนไลน์ และ แฟมิลี่มาร์ททุกสาขา พร้อมเน้นย้ำคำมั่นสัญญา เราจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ เพื่อให้เราทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากนี้ไปด้วยกัน
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัลรีเทล กล่าวว่า “ การออกมาตรการภาครัฐ ทั้ง พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และมาตรการขอความร่วมมือปิดสถานประกอบการในช่วงระหว่างวันที่ 22 มี.ค. –30 เม.ย. 2563 เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คงปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมส่งผลกระทบต่อบรรดาธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศไทย แต่ทุกคนต่างเข้าใจและให้ความร่วมมือเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ได้เร็วที่สุด นับแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด บริษัทฯ ได้พยายามทุกวิถีทางแม้ในสถานการณ์การจัดการที่ยากลำบากกว่าในเวลาปกติ เพื่อให้การดูแลและมอบบริการที่ดีและปลอดภัยที่สุด ให้กับลูกค้า พนักงาน และ คู่ค้าของเราทุกคนมั่นใจ อุ่นใจเสมอ ตลอดจนเดินหน้าจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน
ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท พร้อมอยู่เคียงข้างและห่วงใยทุกคนเสมอในทุกช่วงเวลา นับเป็นการปฏิวัติวงการค้าปลีกของเมืองไทย ครั้งแรกกับปฏิบัติการ “ล็อคราคาสินค้า 90 วัน” สู้ภัยโควิด-19 ล็อคราคาสินค้าไม่มีการปรับราคาตลอด 90 วัน พร้อมจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคทั้งร้านหลายพันรายการ ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ ออนไลน์ และ แฟมิลี่มาร์ททุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน – 4 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ยกเว้นสินค้าทางการเกษตรในบางรายการยังสามารถปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องตามฤดูกาลและราคาตลาดที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย วิสาหกิจชุมชนขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สามารถดำเนินต่อไปได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ตามปกติ ได้แก่ ตลาดจริงใจ ฟาร์เมอร์ มาร์เก็ต ซึ่งยังคงเปิดจำหน่ายทั้ง 13 แห่งใน 12 จังหวัด และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมกับกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถส่งออกผลผลิตไปยังต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงปลอดสารพิษ จังหวัดอุทัยธานี และ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออกบางแพ จังหวัดราชบุรี ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กระทบต่อออเดอร์การส่งออก เราพยายามที่จะช่วยเหลือเกษตรกร โดยรับซื้อผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สุกเพิ่มขึ้นกว่า 20 % และให้เกษตรกรได้ราคาดีกว่าตลาดทั่วไป พร้อมจัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในราคาที่ไม่สูงเกินไป เพื่อผลักดันจำนวนผลผลิตออกสู่ตลาดให้มากที่สุด
ปฏิบัติการล็อคราคา 90 วัน และ จัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้ากว่าหลายพันรายการ เป็นทั้งคำขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ให้ความไว้วางใจในสินค้าและบริการของ ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท และ ยังเป็นการแสดงถึงความห่วงใยที่เรามีให้กับลูกค้าของเราทุกคนเสมอ และเชื่อมั่นว่าเราทุกคนจะก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน #StayStrongAndHealthyTogether