“ชาญศิลป์” เผยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของกลุ่ม ปตท.ทั้ง 7 บริษัทเลื่อนประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 63 ออกไปก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยยังคงจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลตามกำหนดเดิม
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของกลุ่ม ปตท.ทั้ง 7 บริษัท คือ ปตท., บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC), บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) ได้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ออกไปก่อน จากเดิมที่ PTTEP จะประชุมวันนี้ (30 มี.ค.) และบริษัทอื่นๆ จะประชุมในเดือนเมษายน เป็นการปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 4) ประกาศ ณ วันที่ 27 มีนาคม 2563 (ประกาศฯ) เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในสถานที่ต่างๆ และเพื่อให้การควบคุมโรคทันเวลาและจำกัดการชุมนุมของประชาชนในวงกว้าง
โดยการเลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกลุ่ม ปตท. ทั้งนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและเหมาะสม ทางกลุ่ม ปตท.จะพิจารณากำหนดวันประชุมและวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ขึ้นใหม่ และจะได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบต่อไป
ส่วนการเลื่อนการประชุมจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการปี 2562 โดยยังจ่ายตามวันเวลาเดิมที่แต่ละบริษัทกำหนดไว้ โดยรวมๆ แล้วทั้งกลุ่ม ปตท.มีเงินปันผล 6-8 หมื่นล้านบาท และมีผู้ถือหุ้นราว 3-4 แสนคน
"ในขณะนี้ภาครัฐได้ผ่อนคลายข้อกำหนดเรื่องที่ต้องอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ตรวจสอบบัญชี การแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนคนเดิมที่หมดวาระก็สามารถใช้กรรมการเก่าทำงานไปก่อน ส่วนเรื่องหุ้นกู้ที่ต้องขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นก็กำหนดให้ว่าต้องมีผู้ถือหุ้นร่วมประชุมไม่ต่ำกว่า 25 คนและมีหุ้นร่วมกันมากกว่าร้อยละ 50 ซึ่งเรื่องนี้คงต้องดูสถานการณ์ในระยะต่อไป" นายชาญศิลป์กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ปตท.ยังคงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแทนการจ่ายเงินปันผลประจำปี จากกำไรของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท รวมวงเงิน 31,419 ล้านบาท ซึ่งมีวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 5 มีนาคม 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายน 2563 เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2562 ที่จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.90 บาท ทำให้การจ่ายเงินเงินปันผลทั้งหมดรวมอัตราหุ้นละ 2.00 บาท รวมวงเงินทั้งหมด 57,123 ล้านบาท