“ศักดิ์สยาม”ยันไม่ปล่อยการบินไทยล้มละลาย สั่งทบทวนแผนฟื้นฟู จัดหาฝูงบินเน้นเช่าพร้อมบริการเสริม แนะให้สถาบันการเงินมืออาชีพช่วยกรองแผนฟื้นฟูก่อนว่าเป็นไปได้หรือไม่ รับปากหากแผนชัด พร้อมหนุนกู้เงิน ย้ำต้องปรับโครงสร้างใหญ่ถึงจะพ้นวิกฤติ ด้าน “รักษาการดีดี” เตรียมแผนลดค่าใช้จ่าย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถึงแผนฟื้นฟูการบินไทยโดยให้การบินไทยนำแผนให้ สถาบันการเงินที่การบินไทยจะขอสนับสนุนทางการเงิน พิจารณาก่อนว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน หากสถาบันการเงินดูแผนฟื้นฟูแล้วมีความเห็นว่าเป็นไปได้ กระทรวงคมนาคมพร้อมสนับสนุนและนำเสนอแผนต่อรัฐบาลทันที ซึ่งได้หารือกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเบื้องต้นแล้ว ซึ่งยืนยันพร้อมในการช่วยเหลือการบินไทย หากมีแผนที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ในการจัดหาฝูงบินใหม่จำนวน 38 ลำ นั้น การบินไทยต้องทบทวนและปรับแผนให้เหมาะสม การบินไทยต้องหาวิธีในการจัดหาเครื่องบินที่ตอบโจทย์ ทั้งความทันสมัย และความสามารถในการแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ ซึ่งเห็นว่า วิธีการเช่า ยังเป็นรูปแบบที่เหมาะสม และไม่ใช่เช่าแค่เครื่องบิน แต่ยังสามารถ พิจารณาเรื่อง เอ้าท์ซอส หรือ โค-แบรนด์ ได้อีก และส่งผลดีต่อธุรกิจ ทั้งหมดนี้ การบินไทยจะต้องพิจารณา และทำแผนฟื้นฟูเสนอมา โดยปัจจุบันการบินไทยมีการเช่าเครื่องบินมาใช้ดำเนินการอยู่แล้ว ประกอบกับจะต้องประเมินว่าสถานการณ์ของโควิด-19 จะยาวนานไปถึงแค่ไหน และมีผลกระทบอย่างไรบ้าง ดังนั้น การซื้อเครื่องบินในขณะที่สภาวะทางการเงินเป็นแบบนี้ จะส่งผลทำให้การประกอบธุรกิจเป็นอย่างไร
“ผมได้หารือกับรมว.คลัง ซึ่งยืนยัน ในการช่วยเหลือการบินไทย แต่การจะช่วยนั้นจะต้องมีแผนที่ชัดเจน แต่วันนี้ ไม่มีใครบอกได้ว่าแผนฟื้นฟูที่การบินไทยทำมา ทางสถาบันการเงินจะให้การสนับสนุน หรือไม่ ดังนั้นจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินตรวจแผนก่อนว่าทำได้จริง”นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รักษาการ ดีดีการบินไทย ยังอยู่ระหว่างวางแผนในการลดค่าใช้จ่ายของการบินไทยลง ซึ่งขณะนี้ จากการได้หยุดทำการบินในหลายเส้นทาง ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ในขณะที่ ในบางเซกเตอร์ของการบินไทยยังคงสามารถมีรายได้เข้ามา ดังนั้น จะต้องพิจารณารายละเอียดเพื่อดำเนินธุรกิจในขณะนี้ ส่วนจะต้องมีการลดพนักงานลงด้วยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของดีดี และคณะกรรมการ(บอร์ด) การบินไทย ที่จะต้องพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมการบินไทยได้เสนอ ขอกู้เงินประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาท เพื่อมาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น แต่เนื่องจากแผนยังไม่ชัดเจน ว่าจะใช้เงินกู้ดังกล่าวไปดำเนินการอย่างไร จึงให้ไปทำแผนที่ชัดเจนมากกว่านี้ โดยให้เวลา 1 สัปดาห์ แต่ จนถึงขณะนี้การบินไทยยังไม่ส่งแผนกลับมา
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการประเมินสภาพคล่องของการบินไทยว่าจะสามารถดำเนินการได้ 2 เดือนนั้น เป็นการประเมินภายใต้เงื่อนไขที่ทำการบินตามปกติ ขณะที่ปัจจุบันการบินไทยมีการปรับลดเที่ยวบินลงไปมาก เท่ากับสถานการณ์เปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัญหาทางธุรกิจแต่รัฐจะไม่ให้การบินไทย ล้มละลาย แน่นอน แต่การบินไทยจะต้องปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ผู้บริหารจะต้องกล้าตัดสินใจ ภายใต้ข้อมูลที่แท้จริง และคนในองค์กรจะต้องร่วมมือกัน