กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับ บริษัท เบฟเทค จำกัด สนับสนุนการผลิตเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพอนามัยสำหรับมือ ร่วมกู้สถานการณ์วิกฤต COVID-19
นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญเพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤต COVID-19 ด้วยความร่วมมือกันของภาครัฐและภาคเอกชน ระหว่างกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กับ บริษัท เบฟเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในการลงนามความร่วมมือสนับสนุนการผลิตเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพอนามัยสำหรับมือ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ลดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยมี นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ดร.พิษณุ วิเชียรสรรค์ คุณบรรจง ชินธนะศิริ คุณกมลนัย ชัยเฉนียน ร่วมลงนาม ณ สถาบันโรคผิวหนัง เมื่อเร็วๆ นี้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ยังไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ ซี่งปัญหาหนึ่งที่เราพบก็คือ อุปกรณ์ที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ให้ทำงานได้อย่างปลอดภัยนั้นยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ที่เริ่มขาดแคลน ในวันนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเป็นตัวอย่างที่ดีในความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน สำหรับการลงนามความร่วมมือระหว่างกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กับบริษัท เบฟเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มไทยเบฟ ในการร่วมมือกันสนับสนุนการผลิตเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพอนามัยสำหรับมือ ซึ่งทางสถาบันโรคผิวหนังมีวิธีการผลิตแอลกอฮอล์เจล ส่วนเบฟเทคมีวัตถุดิบสำคัญคือแอลกอฮอล์ที่มีสายการผลิตที่ได้มาตรฐาน ตรงนี้จะทำให้เราสามารถผลิตแอลกอฮอล์เจลที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยสนับสนุนทำให้บุคลาการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลมีความมั่นใจในการปฏิบัติงาน
ขอขอบคุณกลุ่มไทยเบฟ ที่ได้มอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากแอลกอฮอล์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ สำหรับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และช่วยป้องกันไม่ให้ประเทศไทยประสบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตแบบกรณีที่อู่ฮั่น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาภาวะวิกฤตของชาติที่ต้องร่วมมือกัน”
ทางด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า “การลงนามความร่วมมือนี้เป็นการร่วมมือในการผลิตแอลกอฮอล์เจลทางการแพทย์ ตอนแรกที่เราประสานกันก็คือเป็นเพื่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ของกรมการแพทย์ แต่พอประสานไปจริงๆ แล้วพบว่าทางไทยเบฟได้ปิดทองหลังพระ และดำเนินการผลิตแอลกอฮอล์เพื่อทยอยมอบแก่บุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลของทั้งประเทศอยู่แล้ว หลังจากกรมสรรพสามิตได้ออกประกาศ 2 ฉบับ เพื่อปลดล็อกให้ผู้ผลิตสามารถบริจาคหรือจำหน่ายแอลกอฮอล์เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงสาธารณสุขได้ จึงเกิดเป็นความร่วมมือนี้ขึ้น โดยบริษัท เบฟเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยเบฟ จะเป็นผู้สนับสนุนแอลกอฮอล์ให้แก่สถาบันโรคผิวหนังที่เป็นสังกัดกรมการแพทย์ ซึ่งเราเป็นกรมวิชาการ เราก็จะช่วยดูแลเรื่องของศูนย์กำกับและผลิตแอลกอฮอล์เจลให้แก่ทางเบฟเทคให้นำไปใช้ร่วมการผลิตดูแล
ความร่วมมือนี้จะมีประโยชน์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์มีแอลกอฮอล์เจลที่จะดูแลตัวเองป้องกันตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยไปด้วยในตัว และที่สำคัญ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนนี้จะช่วยกระจายแอลกอฮอล์ให้สถาบันทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปกติที่สถาบันโรคผิวหนังผลิตเองก็อาจจะผลิตได้ในปริมาณน้อยๆ แต่ถ้ามีความช่วยเหลือมาจากทางบริษัทเบฟเทคจะทำให้การผลิตทำได้เยอะขึ้น การกระจายสินค้าก็จะทั่วถึงมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น สำหรับปริมาณการใช้แอลกอฮอล์ ถ้าเทียบกับปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 200% จากปกติเราใช้ปริมาณ 1 ลิตรต่อปี แต่ขณะนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเราใช้ไปประมาณเกือบ 30,000 ลิตรแล้ว จริงๆ ถือว่าในประเทศเราเข้าสู่ภาวะวิกฤต มีสงครามเกิดขึ้น แต่ว่าเป็นสงครามกับเชื้อโรคซึ่งเราอาจจะมีความเห็นที่หลากหลาย มีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันไป แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่แนะนำคือ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน และเป็นการขยายองค์ความรู้จากกรมการแพทย์ กรมวิชาการ เพื่อช่วยเหลือประเทศได้ โดยทราบว่าทางไทยเบฟได้มีแผนการสนับสนุนแอลกอฮอล์ให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องอีกหลายแห่ง ก็ต้องขอขอบคุณบริษัทไทยเบฟ และขอบคุณแทนประชาชนทุกคนด้วย”