ผู้จัดการรายวัน 360 - “บีลิงค์ มีเดีย” เดินหน้าเต็มสูบ ขยายธุรกิจ-บริการ-ลูกค้าเป้าหมายในตลาดสื่อนอกบ้าน มั่นใจทั้งปี 63 นี้บิลลิ่งทะลุ 200 ล้านบาท เผยพิษโควิด-19 กระทบลูกค้าจองสื่อระยะสั้นลง
นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน หรือเอาต์ออฟโฮมมีเดีย เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% หรือมียอดบิลลิ่งประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกคาดว่าจะทำยอดบิลลิ่งได้มากถึง 50% จากที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์และปรับโครงสร้างมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายเป็นแพลตฟอร์มสื่อนอกบ้านอันดับ 1 ของไทย (OOH No.1 Target Platform Media) ก่อนนำพาบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเข้าตลาดฯ นั้นอาจจะต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ มองว่าส่งผลกระทบในภาพรวมของเศรษฐกิจแน่นอน แต่ว่าจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจแตกต่างกันไป
ขณะที่ธุรกิจสื่อนอกบ้านหรือเอาต์ออฟโฮมมีเดียนี้ได้รับผลกระทบเล็กน้อย โดยลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนการวางแผนจากระยะยาวในการจองหรือซื้อสื่อนาน 6 เดือน-1 ปี ลดลงเหลือระยะสั้น 3-6 เดือน รวมทั้งอยู่ที่ทำเลของสื่อด้วย หากเป็นทำเลที่ไม่ใช่ไพรม์โลเกชันก็จะไม่มีการจองซื้อล่วงหน้า
ในปี 2562 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตที่สวนกระแส โดย กฤษณะ ถนอมทรัพย์ กลับมารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และให้ ธนชัย ถนอมทรัพย์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการตลาด และการขาย (CMO) เพื่อดูแลด้านงานขาย และสื่อสารการตลาด พิมพ์วดี มนต์อภิวันท์ รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) และ วัลลภ เอี่ยมศิริกุลมิตร รับตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO)
รวมทั้งการขยายธุรกิจ โดยเน้นงานขายสื่อในรูปแบบ Campaign Solution ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่บีลิงค์มีพื้นที่มีเดียอยู่ทั้งหมด ผสมผสานกับงานครีเอทีฟ, อีเวนต์แอ็กทิเวชันทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้บริการมีเดียในภาพรวมทั้งหมดกว่าร้อยแบรนด์สินค้า ทำให้บริษัทฯ มียอดขายในช่วง Q1 เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายในปี 2563 กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2562 ประมาณ 15 %
ทั้งนี้ ปีนี้จะขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการเพิ่มพื้นที่สื่อ การเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มการบริการ เช่น การเป็นผู้ให้บริการนำสินค้าของลูกค้าเข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ใหม่ๆ ที่บริษัทดูแลอยู่ การให้บริการแบบสร้างแคมเปญกับลูกค้า และการเพิ่มกลุ่มลูกค้า เช่น พื้นที่สื่อในกลุ่มสถานบันเทิงกลางคืน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และปีนี้จะทำงานเต็มที่มากขึ้น
“บีลิงค์ มีเดีย มีจุดแข็งเรื่องการที่มีเดีย สื่อนอกบ้านแบบเจาะจง เฉพาะกลุ่ม ซึ่งสามารถครอบคลุมกลุ่มนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศกว่า 1,000,000 คนได้ผ่านมีเดียป้ายโฆษณาในโรงเรียน และในมหาวิทยาลัยกว่า 1,000 ป้าย รวมทั้งได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการบริหารมีเดียใน 2 อาคารศูนย์รวมสถาบันกวดวิชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อันได้แก่ อาคารวรรณสรณ์ (สี่แยกพญาไท) และอาคารสยามกิตติ์ (สยามสแควร์)” นายกฤษณะกล่าว
นอกจากนั้น บีลิงค์ยังสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มคนทำงาน CBD ทั่วกรุงเทพฯ ผ่านป้ายโฆษณาภายใน 38 ตลาดนัด ศูนย์อาหารเจาะกลุ่มคนทำงาน รวมทั้งป้ายโฆษณาในอาคารศูนย์รวมสำนักงาน ซึ่งสามารถเจาะกลุ่มคนทำงานได้มากกว่า 500,000 คนต่อวัน
ภาพรวมทั้งหมดถือเป็นพื้นที่โฆษณาไข่แดงของนักการตลาดที่ต้องการทำการตลาดเจาะเฉพาะกลุ่มไปยังกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ผ่านแนวคิด Right Target (กลุ่มเป้าหมายชัดเจน) Reach (เข้าถึงดีที่สุด) และ Complete (การทำการตลาดครบวงจรผ่าน On Media + On line + On ground + On Sale ให้แก่ลูกค้า)
นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน หรือเอาต์ออฟโฮมมีเดีย เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 15% หรือมียอดบิลลิ่งประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกคาดว่าจะทำยอดบิลลิ่งได้มากถึง 50% จากที่ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์และปรับโครงสร้างมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายเป็นแพลตฟอร์มสื่อนอกบ้านอันดับ 1 ของไทย (OOH No.1 Target Platform Media) ก่อนนำพาบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเข้าตลาดฯ นั้นอาจจะต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปัญหาเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ มองว่าส่งผลกระทบในภาพรวมของเศรษฐกิจแน่นอน แต่ว่าจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจแตกต่างกันไป
ขณะที่ธุรกิจสื่อนอกบ้านหรือเอาต์ออฟโฮมมีเดียนี้ได้รับผลกระทบเล็กน้อย โดยลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนการวางแผนจากระยะยาวในการจองหรือซื้อสื่อนาน 6 เดือน-1 ปี ลดลงเหลือระยะสั้น 3-6 เดือน รวมทั้งอยู่ที่ทำเลของสื่อด้วย หากเป็นทำเลที่ไม่ใช่ไพรม์โลเกชันก็จะไม่มีการจองซื้อล่วงหน้า
ในปี 2562 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตที่สวนกระแส โดย กฤษณะ ถนอมทรัพย์ กลับมารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และให้ ธนชัย ถนอมทรัพย์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการตลาด และการขาย (CMO) เพื่อดูแลด้านงานขาย และสื่อสารการตลาด พิมพ์วดี มนต์อภิวันท์ รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) และ วัลลภ เอี่ยมศิริกุลมิตร รับตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO)
รวมทั้งการขยายธุรกิจ โดยเน้นงานขายสื่อในรูปแบบ Campaign Solution ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่บีลิงค์มีพื้นที่มีเดียอยู่ทั้งหมด ผสมผสานกับงานครีเอทีฟ, อีเวนต์แอ็กทิเวชันทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้บริการมีเดียในภาพรวมทั้งหมดกว่าร้อยแบรนด์สินค้า ทำให้บริษัทฯ มียอดขายในช่วง Q1 เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายในปี 2563 กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2562 ประมาณ 15 %
ทั้งนี้ ปีนี้จะขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของการเพิ่มพื้นที่สื่อ การเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย การเพิ่มการบริการ เช่น การเป็นผู้ให้บริการนำสินค้าของลูกค้าเข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ใหม่ๆ ที่บริษัทดูแลอยู่ การให้บริการแบบสร้างแคมเปญกับลูกค้า และการเพิ่มกลุ่มลูกค้า เช่น พื้นที่สื่อในกลุ่มสถานบันเทิงกลางคืน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และปีนี้จะทำงานเต็มที่มากขึ้น
“บีลิงค์ มีเดีย มีจุดแข็งเรื่องการที่มีเดีย สื่อนอกบ้านแบบเจาะจง เฉพาะกลุ่ม ซึ่งสามารถครอบคลุมกลุ่มนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศกว่า 1,000,000 คนได้ผ่านมีเดียป้ายโฆษณาในโรงเรียน และในมหาวิทยาลัยกว่า 1,000 ป้าย รวมทั้งได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการบริหารมีเดียใน 2 อาคารศูนย์รวมสถาบันกวดวิชาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อันได้แก่ อาคารวรรณสรณ์ (สี่แยกพญาไท) และอาคารสยามกิตติ์ (สยามสแควร์)” นายกฤษณะกล่าว
นอกจากนั้น บีลิงค์ยังสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มคนทำงาน CBD ทั่วกรุงเทพฯ ผ่านป้ายโฆษณาภายใน 38 ตลาดนัด ศูนย์อาหารเจาะกลุ่มคนทำงาน รวมทั้งป้ายโฆษณาในอาคารศูนย์รวมสำนักงาน ซึ่งสามารถเจาะกลุ่มคนทำงานได้มากกว่า 500,000 คนต่อวัน
ภาพรวมทั้งหมดถือเป็นพื้นที่โฆษณาไข่แดงของนักการตลาดที่ต้องการทำการตลาดเจาะเฉพาะกลุ่มไปยังกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ผ่านแนวคิด Right Target (กลุ่มเป้าหมายชัดเจน) Reach (เข้าถึงดีที่สุด) และ Complete (การทำการตลาดครบวงจรผ่าน On Media + On line + On ground + On Sale ให้แก่ลูกค้า)
